เปิดใจผู้เสียหาย ขายควายเปิดพอร์ต ลงทุนกับ "ดร.ภ." สุดท้ายถอนเงินคืนไม่ได้ | คมชัดลึก

ความคืบหน้า "บ้านแชร์น้องแครอท" แชร์ลูกโซ่หลอกพระสงฆ์ภาคอีสาน เสียหายกว่า 1 พันล้าน โดย สำนักพุทธจังหวัดขอนแก่น ออกมาชี้แจงกรณีภาพพระสงฆ์ที่อยู่ในเพจดังว่า เป็นการจัดการเรียนการสอน ไม่ใช่การอบรมแชร์แต่อย่างใด ต่อมาผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า พระสงฆ์ 2 รูป ที่ปรากฏในภาพได้รับกิจนิมนต์ไปเทศนาธรรม ภายในรีสอร์ท ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสำนักงานของบริษัทฯ หลอกเป็นโบรกเกอร์ลงทุนเทรด Forex และไม่ได้มีผู้เสียหายเฉพาะพระสงฆ์ แต่ยังมีประชาชนทั่วไปที่เป็นฆารวาสอีกหลักพันคน

23 ต.ค. 2567 นายเดชชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด หนึ่งในผู้เสียหายที่ลงทุนเทรดกับ ดร.ภ. โดยนำควาย 9 ตัว มาขายให้ ดร.ภ. เพื่อนำเงินมาลงทุนเปิดพอร์ต ก๊อปปี้ เทรดกับโบรกเกอร์ ที่มี ดร.ภ. เป็นมาสเตอร์และประธานบริษัท โดย ดร.ภ.ได้ตีราคาควายทั้ง 9 ตัวเป็นเงิน 700,000 บาท ก่อนจะนำมูลค่าเงินดังกล่าวไปเปิดพอร์ตให้ 2 ตัว รวมมูลค่ากว่า 6 แสนบาท และทอนเงินคืนให้กับผู้เสียหายรายนี้จำนวน 60,000 กว่าบาท แต่สุดท้ายไม่สามารถเบิกถอนเงินคืนได้ และไม่สามารถติดต่อ ดร.ภ.ได้อีก

ตนเองไปตามที่สำนักงานในพื้นที่ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบว่าไม่มีใครอยู่ ควายที่ขายให้ล้มตายไป 2 ตัว ส่วนอีก 7 ตัว ซูบผอมไม่ได้กินข้าวกินน้ำ จนกระทั่งมาทราบอีกครั้งว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่เดิมแล้วและควายก็หายไปทั้งหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งเชือกควาย ถ้าเชือกควายยังเหลืออยู่ คงผูกคอตายไปแล้ว เพราะตอนนี้ครอบครัวแตกแยก ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
 

นายเดชชาติ เล่าย้อนไปเมื่อปี 2541 ตนไปสมัครเป็นสมาชิกธุรกิจขายตรงอาหารเสริมของบริษัทฯ ย่านรัชดา ขณะนั้นได้พบกับ ดร.ภา. ซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ 20 ต้นๆ ยังไม่ได้เป็น ดร. และยังเรียนหนังสืออยู่ แต่เป็นแม่ข่ายแล้ว ก่อนที่ตนเองและ ดร.ภ.จะออกจากบริษัท เพราะการบริหารล้มเหลว มาทราบภายหลังว่าเจ้าตัวไปเปิดบริหารอีกหลายบริษัท และเรียนต่อจนได้เป็น ดร. ก่อนจะมาเจอกันอีกครั้งที่บริษัทเกี่ยวกับอาหารทะเล เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่เปิดตอนกลางคืน และมีการทำธุรกิจขายตรง ตนไปสมัครเป็นสมาชิก โดย ดร.ภ. ใช้วาทะศิลป์กล่อมให้แฟนเจ้าของบริษัทลงทุนเปิดบริษัทขายตรงด้วยกว่า 100 ล้านบาท เปิดทั้งในไทย และกัมพูชา แต่ที่ไทย ดร.ภ. บริหารล้มเหลวอีกครั้ง

ตอนที่ตนเองเข้าไปเป็นสมาชิกของ ดร.ภ. จะมีการอบรมการเทรดโดยเอาวัยรุ่น นศ.เข้ามา และที่เอากลุ่มนี้เข้ามาเรียนรู้เพราะว่าพ่อแม่ก็ได้ไปนั่งฟังด้วย จะล้างสมองลูกก่อน พอลูกอยากลงทุนเทรดพ่อแม่ก็จะหาเงินให้ลูกลงทุนเพราะว่าลูกอยากทำ ซึ่งตนเองเป็นสมาชิกบริษัทนี้ได้ 2-3 เดือน รู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบ และไม่น่าจะใช่ เพราะคนอย่าง ดร.ภ. คำพูดสวยหรู แต่การกระทำไม่ได้ตามที่พูด และเป็นคนคิดการใหญ่ จึงออกมาจากบริษัท แต่ก็มีเจอกันบ้างก็ทักทายธรรมดา

ต่อมา ดร.ภ. ไปเปิดโรงเรียนสอนภาษาหลายแห่งตามจังหวัดต่างๆ เมื่อช่วงปี 2557 ขณะนั้น ดร.ภ.เริ่มเรียนรู้วิธีการเทรดแล้ว มีการชักชวนคนมาร่วมเทรด โดยเฉพาะข้าราชการครูและนักศึกษาที่มาเรียนโรงเรียนสอนภาษาตัวเอง ครู และนศ.ที่มาเรียน จะถูก ดร.ภ. พูดโน้มน้าวเชิญชวนลงทุนเทรดบอกตัวเองมีความรู้ความสามารถ พอเกิดความโลภความอยากได้ก็ลงทุนเข้ามา และก็บริหารล้มเหลวอีกครั้ง กระทั่งมาเปิดบริษัทฯ จนถึงปัจจุบัน ตนเองได้เจอ ดร.ภ.อีกครั้ง หลังจากเพื่อนชวนร่วมเทรด สังเกตการณ์อยู่กว่า 20 วัน จึงตัดสินใจร่วมลงทุน

กระทั่ง 14 ก.พ. 2566 ตนไปคุยกับ ดร.ภ. ที่สำนักงาน ถ้าใครเห็นสำนักงานตอนนั้นดูแล้วน่าเชื่อถือมาก คนหมุนเวียนเป็นร้อยคนทุกวัน ไปบอกว่าสนใจ แต่ไม่มีเงินสดอยากทำเทรด และเสนอไปว่าตนเองมีควายขอเปลี่ยนควายเป็นเงิน 1 ล้านบาทมาลงทุนได้ไหม โดย ดร.ภ. ตีราคาให้มา 7 แสน รวมทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งตนเองก็ไม่เคยเห็นเงินสด กระทั่ง 3 วัน ดร.ภ. นำเข้าพอร์ตให้ 2 ตัว 600,000 กว่าบาท และทอนเงินสดให้ 60,000 กว่าบาท ก่อนกลับบ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด

หลังจากยกควายไปให้ทั้งคอกแล้ว เริ่มมาเอะใจหลังจากถอนเงินไม่ได้ สมาชิกเป็นหมื่นคนก็ถอนไม่ได้ ซึ่ง ดร.ภ.บอกว่า เกตเวย์เป็นคอขวด สมาชิกลงทุนเยอะมาก ทำให้ไม่สามารถถอนได้ เพราะสมาชิกพร้อมใจกันถอนและถอนทุกวัน ทำให้ไม่สามารถถอนได้ในตอนนี้และบอกให้รอไปก่อน ทั้งยังพูดโน้มน้าวต่อว่า จะมีผลดียิ่งลงทุนทิ้งไว้ยิ่งได้ผลตอบแทนมาก ถ้าไม่ถอน 10 ปี จะได้เงินหลักร้อยล้าน หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก พอไปตามที่สำนักงานเห็นควายซูบผอม เหมือนไมได้กินอะไร

นายเดชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นพระสงฆ์นั้น ตนเองมองไว้สองอย่างคือ ดร.ภ. เคยบวชเรียนมา และมีการพูดการบรรยายจะใช้คำเกี่ยวกับธรรมผสมผสานกันไป และนิสัยคนไทยจะชอบแนวนี้ พูดไทยผสมภาษาบาลี เป็นคนที่มีวาทะศิลป์เก่งมาก แต่วันนี้มูลค่าความเสียหายเยอะ ได้เงินเยอะ หนีไปต่างประเทศได้ ตอนนี้ไม่ทราบว่า ดร.ภ. อยู่ไหน แต่เท่าที่ทราบ คือมีเครือข่ายที่ สปป.ลาว มีเจ้าใหญ่นายโต ที่ ดร.ภ. รวมทั้งที่กัมพูชา และเมียนมา ที่จะเป็นแหล่งกบดานกลุ่มธุรกิจสีเทาไว้พักพิง ส่วนประเทศไทยคงไม่อยู่แล้ว

หาก ดร.ภ. ดูอยู่ อยากบอกว่าให้กลับมาเคลียร์กับสมาชิก เพราะความเดือดร้อนเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ทุกคนหมดเนื้อหมดตัวไปกับสิ่งที่คุณทำแพลตฟอร์มปลอมนี้ขึ้นมา ทำคนจนลงเรื่อยๆ ไม่ได้ทำให้ใครรวย ไร้อาชีพ บางคนลาออกจากครู จากงานที่มั่นคง ถ้าหากกลับมาอาจจะผ่อนจากหนักเป็นเบาได้ อยากให้กลับมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ คุณอาจรู้สึกเป็นทุกข์ แต่คนที่คุณทำเป็นทุกข์กว่าคุณ ต้องอยู่อย่างลำบาก ทำครอบครัวเดือดร้อน ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายพอ มาตายที่ประเทศไทยดีกว่า อย่าตายที่ต่างประเทศเลย