ข่าว

พี่สาว เผยเศร้า น้องชายอยากมีรายได้ เลี้ยงครอบครัว ยอมเสี่ยง ไปทำงานอิสราเอล

พี่สาว เผยเศร้า น้องชายอยากมีรายได้ เลี้ยงครอบครัว ยอมเสี่ยง ไปทำงานอิสราเอล

01 พ.ย. 2567

พี่สาว เผยเศร้า น้องชายยอมเสี่ยง ไปทำงานอิสราเอล เพราะอยากมีรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว ไม่คาดคิดจะเกิดเหตุสลด

จากกรณีแรงงานไทยในอิสราเอล เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บอีก 1 คน จากการยิงจรวดใกล้เมืองเมตูลา ใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน เมื่อ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ เบื้องต้นทราบว่านายจ้างได้ขออนุญาตนำแรงงานไทยเข้าไปในพื้นที่ เป็นระยะเวลาสั้นๆ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งกองทัพอิสราเอลอนุญาต

1 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายประหยัด พิลาศรัมย์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 แรงงานไทยที่เสียชีวิต อยู่ในพื้นที่บ้านหนองพลวง ต.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้พบกับ นายยศ อายุ 70 ปี พ่อ, นางรน อายุ 70 ปี แม่, นางสุลาภรณ์ อายุ 45 ปี พี่สาว, และ น.ส.ประไพ อายุ 40 ปี ภรรยา ซึ่งยังอยู่ในอาการช็อกและทำใจไม่ได้ กับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปแบบกะทันหัน นอกจากนี้ยังมีชาวบ้าน และญาติพี่น้องที่ทราบข่าว เดินทางแสดงความเสียใจพร้อมทั้งผูกแขนให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย 

นางสุลาภรณ์ พี่สาวนายประหยัด เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้น้องชายขับรถสองแถวรับส่งนักเรียน และผู้โดยสารทั่วไป ก็พอเลี้ยงดูครอบครัว แต่ช่วงวิกฤตโควิดแทบไม่มีรายได้ พอสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง มีคนในหมู่บ้านเดียวกันมาชักชวนไปทำงานต่างประเทศ ตนยังถามน้องชายว่าจะไปจริงๆ ใช่หรือไม่ เพราะเป็นห่วงน้องชาย เนื่องจากที่ผ่านมา น้องไม่เคยไปทำงานไกลบ้านเลย โดยเฉพาะต่างประเทศ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่น้องตัดสินใจไป เพราะอยากมีรายได้มาดูแลครอบครัว แม่จึงไปกู้เงิน ธกส. และเงินนอกระบบเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไปทำงานที่อิสราเอลรอบแรกกว่า 1 แสนบาท

แต่พอเกิดเหตุสู้รบทางการก็ให้กลับมาพัก แต่ยังไม่ครบสัญญาจ้างนายจ้างก็ติดต่อให้กลับไปทำงานอีก ทุกคนในครอบครัวไม่อยากให้ไปเพราะเป็นห่วง แต่น้องชายยืนยันจะกลับไป แม้รู้ว่าเสี่ยงอันตรายก็ตาม จนมาเกิดเหตุสลดขึ้น รู้สึกเสียใจมากที่สูญเสียน้อง ถือว่าน้องเสียสละเพื่อครอบครัว ก็อยากให้ทางการช่วยนำร่างน้องกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด และช่วยเหลือครอบครัวด้วย 

พี่สาว เผยเศร้า น้องชายอยากมีรายได้ เลี้ยงครอบครัว ยอมเสี่ยง ไปทำงานอิสราเอล

ด้าน น.ส.ประไพ ภรรยานายประหยัด บอกว่า ที่สามีตัดสินใจไปทำงานอิสราเอลเพราะอยากมีรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว เนื่องจากมีลูกถึง 3 คน ตนเองดูแลลูกไม่ได้ทำงาน ส่วนพ่อแม่สามีอายุมากแล้ว โดยสามีเดินทางไปเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 64 จากนั้นเกิดเหตุสู้รบ ทางการให้เดินทางกลับไทย เมื่อวันที่ 25 ต.ค.66 ต่อมานายจ้างติดต่อให้กลับไปทำงานอีกรอบ เพราะยังไม่ครบสัญญาจ้าง

ตอนแรกสามีทำงานอยู่แถวภาคกลางซึ่งไม่อันตรายมาก แต่เพื่อนชวนไปทำงานทางตอนเหนือ เพราะมีค่าแรงสูงกว่า สามีบอกว่ามีเหตุสู้รบเกือบทุกวัน บางวันขีปนาวุธยิงข้ามหัวจุดที่ทำงานอยู่ ตนก็บอกให้ดูแลตัวเองดีๆ ไม่คาดว่าคิดว่าจะมาเกิดเหตุสลดแบบนี้
 

พี่สาว เผยเศร้า น้องชายอยากมีรายได้ เลี้ยงครอบครัว ยอมเสี่ยง ไปทำงานอิสราเอล