"ดร.เค็ง" เปิดใจ หลังศาลยกฟ้องคดี ถูก ม.ดัง ฟ้องเรียกทุนคืน นับ 10 ล้าน
"ดร.เค็ง" เปิดใจ หลังศาลปกครองเชียงใหม่ ยกฟ้องคดี ถูก ม.แม่ฟ้าหลวง ฟ้องชดใช้ทุนคืน นับ 10 ล้าน หวังเป็นแนวปฏิบัติสำหรับมหาวิทยาลัย
จากกรณีข่าวดังเมื่อปลายปี 2566 "ดร.เค็ง" ประภากร วินัยสถาพร อดีตนักเรียนทุนปริญญาเอก กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ออกมาเปิดเผยข้อมูล ภายหลังถูก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ฟ้องให้ชดใช้ทุนการศึกษานับ 10 ล้าน เนื่องจาก ดร.เค็ง ขอลาออก ขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการชดใช้ทุน
ซึ่ง ดร.เค็ง ให้เหตุผลว่า เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่เรียนปริญญาเอก อยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีอาการวิตกกังวลเหมือนมีคนติดตาม และมีการคลุ้มคลั่งเป็นบางครั้ง ทำให้เข้ารับการักษาที่โรงพยาบาล แต่เมื่ออาการดีขึ้น จึงอยู่ที่ประเทศอังกฤษ อีก 1 ปี จนทำวิทยานิพนธ์และงานวิจัยแล้วเสร็จ กระทั่งกลับมาทำงาน ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง แต่ยังมีอาการหลอน โดยที่ไม่ได้กลับเข้าสู่ระบบการรักษาอีก ดังนั้นจึงขอลาออกในวันที่ 19 ส.ค.2557 ซึ่งก็ได้รับอนุญาต
ต่อมา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ส่งจดหมายทวงหนี้ค่าทุนการศึกษา เพราะทำงานให้ไม่ครบตามสัญญา ซึ่ง ดร.เค็ง ได้แจ้งกลับว่าไม่ได้ทำผิด จึงไม่ควรต้องชดใช้ ต่อมาจึงมีการฟ้องร้องกระทั่งคดีถึงศาลปกครอง
1 พ.ย. 2567 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์อัปเดตคดีดังกล่าว ว่า ข่าวดีกรณี ดร.เค็ง ที่ป่วยเป็นจิตเวช แล้วโดน ม.แม่ฟ้าหลวง ฟ้องเรียกเงินสิบล้านบาท วันนี้ศาลปกครองสูงสุดที่เชียงใหม่ ได้อ่านคำพิพากษา ยกฟ้องคดีที่ ม.แม่ฟ้าหลวง ฟ้อง ดร.เค็ง ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ความทุกข์ทรมานได้สิ้นสุดแล้ว
ต่อมา ดร.เค็ง ได้เข้ามาตอบคอมเมนต์ ว่า ขอบคุณพี่หนูหริ่งและทุกคนมากค่ะ ที่ใส่ใจปัญหาความทุกข์ใจของเค็ง ขอบคุณกำลังใจ ที่ทำให้ข้ามเวลาแห่งความยากลำบาก โดยไม่รู้สึกโดดเดี่ยวตามลำพังแบบที่เคยเป็นในช่วงเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา
เค็งหวังว่าคำพิพากษานี้ของศาลปกครองสูงสุด จะใช้เป็นแนวปฏิบัติสำหรับมหาวิทยาลัยในการใช้ความระมัดระวังเพื่อดูแลทรัพยากรบุคคล ที่เป็นนักเรียนทุน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีมูลค่าสูง เนื่องจากรัฐใช้ภาษีของประชาชนสนับสนุนทุนการศึกษาจำนวนมหาศาล
ขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนและขอบคุณสำหรับกำลังใจจาก FC ของพี่หนูหริ่ง และจากเพื่อนๆ ทุกคน เค็งจะใช้โอกาสที่ได้รับนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมค่ะ
ย้อนอ่านแถลงการณ์ ม.แม่ฟ้าหลวง กรณีฟ้อง ดร.เค็ง
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2566 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ออกแถลงการณ์เรื่อง การยื่นฟ้องคดีกับอาจารณ์เพื่อให้ชดใช้ทุนการศึกษา โดยมีเนื้อหาว่า ได้มีอาจารย์ที่เคยเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักวิชาการ ทราบชื่อว่า ดร.เค็ง เข้าปฏิบติงานที่ มฟล.เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2548 ต่อมาได้รับทุนจากกระทรวงวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี และทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ให้ไปศึกษาในระดับปริญญาเอก ที่ University of Kent ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2551 จากนั้นได้กลับไปปฏิบัติงานต่อที่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2556
แต่เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2557 ได้ลาออกโดยแสดงเจตนาสมัครใจและได้รับทราบเงื่อนไขการชดใช้ทุนดังกล่าวแล้ว ทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จึงอนุญาต โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2557 ดังนั้น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขโดยเรียกให้ชดใช้ทุนจากกระทรวงฯ จำนวน 630,207.48 บาท และ 194,730 ปอนด์ ส่วนของ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มีจำนวน 726,305.94 บาท
ตามเงื่อนไขสัญญาและหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังกำหนดให้ผู้รับทุนไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินตามสัญญาหากว่าเป็นบุคคลวิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบโดยให้แสดงหลักฐานทางการแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐโดยมีแพทย์ที่รักษาระบุยืนยัน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ ดร.เค็ง ลาออกไม่เคยส่งเอกสารหลักฐานทางการแพทย์ดังกล่าวให้ มฟล.ทราบ แต่ได้ยื่นในชั้นพิจารณาของศาลปกครองเชียงใหม่ เมื่อล่วงพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาแล้ว ทำให้ศาลเคยพิพากษาให้ ดร.เค็ง ชดใช้ทุนมาแล้ว ปัจจุบันมีการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2566 โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาทำให้ไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ระบุว่า ได้ปฏิบัติต่ออดีตอาจารย์คนนี้ด้วยความเมตตาและมีคุณธรรมมาโดยตลอด โดยสนับสนุนและส่งเสริมให้ได้รับโอกาสไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ดังนั้น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ยืนยันว่าเป็นไปตามขั้นตอน หลักเกณฑ์ กฎหมาย และระเบียบของทางราชการ กระนั้นหากศาลปกครองสูงสุดพิจารณาและพิพากษาเป็นอย่างไรทาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ก็จะปฏิบัติตามนั้นทุกประการ