เปิดเทอมวุ่น! ประท้วงไล่ ผอ. ลวนลามนักเรียน คดียังไม่จบ แต่กลับมาทำงานปกติ | คมชัดลึก

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2567 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้พาผู้ปกครอง พร้อมนักเรียนหญิง (ผู้เสียหาย) และพยานอายุระหว่าง 11-15 ปี จากโรงเรียนขยายโอกาสแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีผู้อำนวยการโรงเรียน ลวนลามนักเรียนหญิง และยังพูดจาข่มขู่ให้หวาดกลัว ซึ่งตำรวจรับเป็นคดีอาญาและส่งฟ้องอัยการจังหวัดแล้ว

1 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้น เมื่อนักเรียนทราบว่า ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าว กลับเข้ามาบริหารสถานศึกษา อีกครั้ง โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. นักเรียนระดับชั้น ม.1-ม.3 เกือบ 100 คน ออกมารวมตัวถือป้ายประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน และเรียกร้องให้ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ย้าย ผอ.ออกนอกพื้นที่ทันที
 

ว่าที่ร้อยเอก วีรธนา นรากร รอง ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจากผู้ปกครอง และนักเรียน จากนั้นได้นำไปแจ้งให้ทาง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาตามข้อเรียกร้องทันที ส่วนนักเรียนเองยังไม่ยอมกลับเข้าไปในโรงเรียน เพราะเกรงว่าจะถูก ผอ.โรงเรียนกลั่นแกล้ง จนไม่สามารถเรียนหนังสืออย่างสงบสุขได้

จากพูดคุยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ทาง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ ได้ต่อสายตรงไปยัง ผอ.โรงเรียน แจ้งว่าวันนี้ให้ออกจากโรงเรียนไปก่อน เพื่อให้เด็กๆ ได้กลับเข้าไปในโรงเรียน ส่วนคำสั่งที่ชัดเจนจะเป็นอย่างไรนั้น ก็จะต้องเป็นไปตามมติของผู้บังคับบัญชา และคณะกรรมการที่จะเร่งประชุมพิจารณาเรื่องนี้

ด้าน นายอำนาจ กาละกูล ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา กล่าวว่า วันนี้ตนเองมาตามที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง และนักเรียน ซึ่ง ผอ.โรงเรียนคนนี้ เป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของอัยการแล้ว แต่เมื่อเปิดเทอม ผอ.กลับเข้ามาอยู่ในโรงเรียนเหมือนเดิม ทำให้เด็กๆ กลัวไม่ปลอดภัย และไม่ได้รับความเป็นธรรม จากเรื่องที่เกิดขึ้น

ดังนั้นจึงอยากให้ผู้มีอำนาจในการควบคุมดูแลสถานศึกษาแห่งนี้ พิจารณาระงับการปฏิบัติงานของ ผอ.โรงเรียนไว้ก่อน เพื่อให้นักเรียนได้กลับไปเรียนกันอย่างสงบสุขและสบายใจ แต่หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ทางคณะกรรมการสถานศึกษา อาจจะต้องยกระดับการขับเคลื่อน
 

ขณะที่ ตัวแทนผู้ปกครอง เห็นว่าคำสั่งของเขตฯ กับ คำสั่งของ สภ.เมืองสมุทรสาคร ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจาก คำสั่งของเขตที่ออกมาก่อนหน้านี้ ระบุว่า เป็นการประพฤติผิดที่ไม่รุนแรง ส่วนตำรวจรับเป็นคดีอาญาและส่งฟ้องอัยการจังหวัดแล้ว ฉะนั้นจึงเห็นว่าสมควรที่จะให้ ผอ. หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว หรือให้พ้นไปจากโรงเรียนแห่งนี้ก่อน เพื่อรอให้การพิจารณาคดีทางตำรวจ หรือคำสั่งของอัยการเป็นที่สิ้นสุด จึงจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้