ข่าว

เปิดใจ “ขรัวตาชิน” ปลุกเสกเครื่องรางหมูเด้ง หลังโดนขับพ้นสำนักสงฆ์ใน 7 วัน

เปิดใจ “ขรัวตาชิน” ปลุกเสกเครื่องรางหมูเด้ง หลังโดนขับพ้นสำนักสงฆ์ใน 7 วัน

02 พ.ย. 2567

เปิดใจ “ขรัวตาชิน” ปลุกเสกเครื่องรางหมูเด้ง หลังโดนเจ้าคณะอำเภอ ขับพ้นจากเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ภายใน 7 วัน พร้อมคำเตือนการทำเครื่องราง

2 พ.ย. 2567 จากกรณี ในโลกโซเชียลมีการแชร์ หนังสือคำสั่ง เจ้าคณะอำเภอ มีหนังสือ จอ.20/2567 ให้ พระสมุห์ธนาวุฒิ ฐานวุทโท (พระวิเวกาจารย์) หรือ ขรัวตาชิน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่ตกเป็นข่าวปลุกเสก ฮิปโปแคระกวักทรัพย์ (หมูเด้ง) ให้พ้นจากเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ภายใน 7 วัน

 

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยได้พบกับ พระสมุห์ธนาวุฒิ ฐานวุทโท หรือ พระวิเวกาจารย์ (พระอาจารย์ชิน) เปิดใจว่า ได้รับหนังสือคำสั่งจากเจ้าคณะอำเภอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และน้อมรับในคำสั่งนี้ โดยหนังสือของเจ้าคณะอำเภอ มีคำสั่งให้พ้นจากเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ภายใน 7 วัน ซึ่งหนังสือฉบับนี้ เจ้าคณะปกครอง พระมหาเถระ ท่านได้ทำหน้าที่ของท่าน

ส่วนตัวอาตมาเอง ก็ยอมรับความผิดในครั้งนี้ และไม่มีข้อโต้แย้ง ไม่ขัดขืนคำสั่งใดๆทั้งนั้น ส่วนตัวถ้าพูดเข้าข้างตัวเอง ก็คิดว่าในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ผิดอะไรรุนแรง ถึงขั้นไปฆ่าคนตาย หรือไปเป็นพระปีนเสาไฟฟ้า หรือ ไปทำอย่างอื่นที่ ถึงขั้นอาบัติปาราชิก ในส่วนของเรื่องความศรัทธาที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ อาตมาก็ยอมรับผิดทุกประการเหมือนกัน และ ขอโทษสังคม ขอโทษโยมที่เป็นพุทธบริษัท ที่กระทบกระเทือนศรัทธาตรงนี้ว่ามันไม่เหมาะสม คือพูดเข้าใจง่ายๆ คือ สิ่งที่อาตมาทำ “ก็คือมันไม่เหมาะสม” จึงอยากขอโทษไว้ตรงนี้

 

เครื่องรางหมูเด้ง

 

นอกจากนี้ ยังอยากขอกราบ ขอขมา พระเถรานุเถระ ตั้งแต่ท่านเจ้าคณะปกครอง มารวมถึง เจ้าสำนักสงฆ์ ที่ปัจจุบันอาตมา มาเป็นพระในความปกครองในสิ่งที่อาตมาได้ทำลงไป ซึ่งกระผมได้ไร้สติ วันนี้ได้มีบัญชามาเรียบร้อยแล้ว ก็ยอมรับผิดตรงนั้นทุกประการ และก็ขอกราบขอบพระคุณพระเถรานุเถระทุกท่าน เจ้าปกครอง ที่ได้เมตตา เมตตาให้โอวาท รวมถึงพระคุณท่านอาจารย์พระพยอม ที่ได้ให้โอวาท และสิ่งที่ท่านพูดก็คือเรื่องจริง และ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ก็ได้ให้โอวาทเช่นกัน

 

สุดท้ายอาตมภาพขอให้ทุกท่าน ใช้สติ ใช้ปัญญาพิจารณา เกี่ยวกับเรื่องเครื่องราง ต่อให้ท่านมีเครื่องราง ของหลวงพ่อหรือหลวงปู่ที่ดี ถ้าตัวเองทำบาปไว้เยอะ มันก็ไม่สามารถที่จะไปลบมันได้ สิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับชาวพุทธนั้นก็คือ ถือศีลภาวนา อันเป็นหัวใจหลัก ของพระพุทธศาสนา

 

พระอาจารย์ชิน

 

ส่วนเหตุการณ์ เครื่องรางหมูเด้ง อาตมายอมรับในความผิดพลาด ว่า เป็นสาเหตุทำให้ญาติโยมทั้งหลายมึนเมา โดยขัดต่อธรรมพระวินัย ฉะนั้นคิดดีพูดดีทำดีเป็นสิ่งดีดีที่สุดแล้ว

 

ด้าน นายทรงยศ สอนชา ลูกศิษย์ ของ พระอาจารย์ชิน หรือ พระวิเวกาจารย์ เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจเมื่อได้เห็นคำสั่ง แต่ยอมรับว่า ตั้งแต่พระอาจารย์เข้ามาอยู่ประจำสำนักสงฆ์แห่งนี้ พระอาจารย์เป็นพระปฏิบัติ สวดมนต์ สมาธิ ทำวัตรเย็น เป็นประจำทุกวัน และที่สำคัญ พระอาจารย์เป็นผู้ที่มีเสียงสวดมนต์ที่ไพเราะ รวมถึง ท่านมีลายมือการเขียนภาษาขอม ที่งดงามมาก

 

ส่วนตัวรู้สึก เสียใจที่พระอาจารย์ไม่ได้อยู่ในสำนักสงฆ์แห่งนี้ เพราะที่ผ่านมาพระอาจารย์เป็นพระปฏิบัติมาโดยตลอด ในส่วนเรื่อง ปลุกเสก เครื่องรางหมูเด้ง ยืนยันว่าไม่ได้มีการปลุกเสกภายในวัด แต่เป็นลูกศิษย์ลูกหาของ พระอาจารย์ เป็นผู้จัดสร้างขึ้น และนิมนต์พระอาจารย์ ไปเป็นขวัญและกำลังใจ หรือปลุกเสก ตามที่ปรากฏเป็นข่าว จึงทำให้รู้สึกแปลกใจกับหนังสือ ที่ค่อนข้างจะรุนแรง ถึงขั้น ให้พ้นจาก เขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอบางละมุง ภายใน 7 วัน 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในคำสั่งเจ้าคณะอำเภอ ระบุตอนหนึ่งว่า การกระทำของ พระสมุห์ธนาวุฒิ ฐานวุฑโท (พระวิเวกาจารย์) ขรัวตาชิน เป็นการ
ประพฤติผิดอย่างร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหายและความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาและเจ้าคณะผู้ปกครอง ดังนั้น สั่งให้ พระสมุห์ธนาวุฒิ ฐานวุฑโท (พระวิเวกาจารย์) ขรัวตาชิน ที่พักสงฆ์อนันต์บูรพาราม สังกัดวัดเขาบุญมีดาราราม พ้นจากเขตปกครองคณะสงฆ์อ๋าเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยกำหนดเวลา ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2567 

 

เปิดใจ “ขรัวตาชิน” ปลุกเสกเครื่องรางหมูเด้ง หลังโดนขับพ้นสำนักสงฆ์ใน 7 วัน