ข่าว

โซเชียลแห่ชมความน่ารัก ฝาแฝดตาสีฟ้า แต่พอรู้ความจริง น้องน่าสงสารมาก

โซเชียลแห่ชมความน่ารัก ฝาแฝดตาสีฟ้า แต่พอรู้ความจริง น้องน่าสงสารมาก

05 พ.ย. 2567

โซเชียลแห่ชมความน่ารัก เด็กหญิงฝาแฝดตาสีฟ้า แต่พอรู้ความจริงกลับเป็นโรคทางพันธุกรรม บอกเลยว่าน่าสงสารมาก

5 พ.ย. 2567 จากกรณี มีการแชร์ภาพเด็กฝาแฝด 2 คน โดยผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อว่า Wachi Wichai โดยมีข้อความว่า น้องกิ๊ฟ(ตาฟ้าข้างเดียว) น้องแก้ม (ตาฟ้าสองข้าง) สาวน้อยฝาแฝดตาสีฟ้า #สาวน้อยตาสีฟ้า #น้องกิ๊ฟน้องแก้ม หลังจากได้มีการโพสต์ทำ ให้มีผู้ต่างให้ความสนใจและเข้าไปชื่นชมความน่ารักกันเป็นจำนวนมาก บางคนโยง ไปถึงตัวละครในการ์ตูนนารูโตะ ต่อมาทราบว่าน้องทั้ง 2 คน ได้มาเรียนหนังสือที่โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหาร

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามกับ ดร.สุบิน ประสพบัว ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่าเด็กทั้ง 2 คน มาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้จริง ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.2 ชื่อว่า นรินทร์ และ นารา บ้านเกิดอยู่ที่ บ้านต้อง ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่นำมาที่โรงเรียน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาทิตย์หน้า

ดร.สุบิน ประสพบัว

 

สำหรับอาการของเด็กที่เราเห็น คืออาการวาร์เดนเบิร์ก (Waardenburg syndrome) โดยส่วนใหญ่กลุ่มคนเหล่านี้จะมีตาสีฟ้า ผมสีน้ำตาล และ สีผิวซีด ซึ่งทางโรงเรียนตอนนี้ก็มีอยู่จำนวนหนึ่งที่มาศึกษาที่นี้ โดยทางโรงเรียนก็จะรับเด็กเข้ามาศึกษาและจะทำการสอนเรื่องของภาษา มือ ภาษากาย หรือไม่ก็ใช้เครื่องช่วยฟัง เพราะส่วนใหญ่เด็กกลุ่มนี้จะมีปัญหาเรื่องการได้ยิน

 

สำหรับ อาการวาร์เดนเบิร์ก (Waardenburg syndrome) เป็นโรคทางพันธุกรรมพบยาก คนไข้กลุ่มนี้ มีเสี่ยงหูหนวก 60 %

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พบนางคำจัน อายุ 41 ปี ชาวเมืองขวาง แขวงพงสาสี สปป.ลาว ซึ่งเป็นแม่ของเด็กแฝด เปิดเผยว่า ตนมีคู่แฝด ซึ่งแฝดอีกคนอาศัยอยู่ฝั่งลาวพูดไม่ได้ และพิการทางการได้ยิน แต่เป็นฉลาดมาก ส่วน ตนพูดได้ แต่หูข้างซ้ายได้ยินไม่ชัด และป่วยเป็นโรคเบาหวาน ไขมัน หอบหืด ไม่มีอาชีพอะไร ทุกวันนี้ก็ช่วยพี่สาว ซึ่งเป็นยายของน้องกิ๊ฟ และน้องแก้ม ขายแตงโม 

 

แม่น้องกิ๊ฟและน้องแก้ม

 

นางคำจัน เล่าว่า ตนมีลูกสาวฝาแฝด คือน้องกิ๊ฟ ด.ญ.นารินทร์ และน้องแก้ม ด.ญ.นารา อายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 ซึ่งหลังจากลูกฝาแฝด อายุได้ 1 ขวบ สามีก็ทิ้งไป ต่อมา ตนมีสามีใหม่เป็นคนไทยก็ถูกทิ้งอีก โดยก่อนหน้านี้ ตนเคยข้ามไปทำงานรับจ้างที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี แต่ก็ต้องกลับมาอยู่บ้าน เพราะ ตนและลูกทั้ง 2 คนป่วย ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย และยังถูกคนบลูลี่ว่า ตาสีฟ้า 

 

แม่เด็ก เล่าว่า เดิมลูกฝาแฝดทั้ง 2 คนมีตาสีน้ำตาล แต่ช่วงน้องอายุได้ 8-9 เดือน เริ่มมีอาการผิดปกติ ตาค่อยๆมีตาสีฟ้า ส่วนหูน้องทั้ง 2 คนก็ไม่ได้ยิน ซึ่งเพิ่งจะมารู้ช่วง 3-4 เดือนนี้หลังพาลูกไปพบหมอ จนช่วงหลัง ตนไม่มีเงินจึงไม่ได้พาลูกไปหาหมออีกเลย เพราะไม่มีเงิน  

 

ต่อมามีผู้มาพบเห็นได้นำเรื่องราวของลูกสาวไปลงในโซเซียล ทำให้มีคนเข้ามาช่วย ตนและลูกสาวฝาแฝดไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น หมอบอกว่า ตนเป็นโรคหูเสื่อมและหอบหืด  

 

 

น้องกิ๊ฟ และน้องแก้ม

 

สำหรับลูกสาวฝาแฝดทั้ง 2คน เรียนและวาดรูปเก่ง แต่ ตนสอนลูกไม่เป็น เพราะเป็นชาวลาว ลูกสาวทั้งคู่ก็จะไปเรียนรู้ทางโทรศัพท์ ซึ่งลูก 2 คนเป็นคนไทย ก็จะได้เงินผู้พิการเดือนละ 800 บาท ส่วน ตนมีรายได้จากการไปช่วยขายแตงโมกับพี่สาว มีเงินก็ส่งเสียให้ลูก 2 คน ครั้งละ 500 บาท มีก็ส่งไม่มีก็ไม่ส่งให้ ถ้ามีเงินก็จะซื้อขนมให้

 

ล่าสุดวันเกิดลูกสาวแฝดทั้ง 2 คน ครบรอบวันเกิด 9 ขวบ เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) พี่สาวก็ไปซื้อเค้กมาให้ลูกฝาแฝดเป่าฉลองวันเกิด ลูกแฝดทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อดมื้อกินมื้อและเจ็บป่วยบ่อย วันนี้ก็ไม่ได้ไปโรงเรียน ส่วนวันหยุดจะไปช่วยยายขายแตงโมที่ตลาด โพสต์เฟซบุ๊กและติ๊กตอก ขายแตงโมช่วยยาย

 

แม่เด็ก เล่าต่อว่า น้องแก้ม ได้ขอให้ ตนช่วยซื้อเครื่องช่วยหูฟัง แต่ไม่มีเงิน เพราะทุกวันนี้จ่ายเช่าบ้านเดือนละ 1,600 บาท รวมค่าน้ำไฟ ตกเดือนละ 2,000 บาท ซึ่ง ตนไม่อยากจะเปิดรับบริจาค เพราะเคยเปิดแล้วถูกคนอื่นและมิจฉาชีพนำรูปภาพไปหลอกคนอื่นโอนเงินให้ ซึ่งน้องแก้ม อยากได้เครื่องช่วยหูฟัง เพราะถ้ามีอะไรจะได้สื่อสารช่วยกัน เนื่องจากน้องกิ๊ฟ หูไม่ได้ยินถาวร ซึ่ง ตนฝันอยากจะได้บ้านและที่ดินเล็กไว้อยู่อาศัย