ข่าว

ทนายบอสพอล แย้ม เตรียมพยาน บิ๊กเซอร์ไพรส์ แก้ข้อกล่าวหา กับดีเอสไอ

ทนายบอสพอล แย้ม เตรียมพยาน บิ๊กเซอร์ไพรส์ แก้ข้อกล่าวหา กับดีเอสไอ

06 พ.ย. 2567

"ทนายบอสพอล" แย้ม เตรียมพยาน บิ๊กเซอร์ไพรส์ แก้ข้อกล่าวหา กับดีเอสไอ เผย เตรียมงดจ้อสื่อ เอาเวลาไปรวบรวมหลักฐาน สู้คดี

6 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยวันนี้ พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้าสอบปากคำ นายวรัตน์พล วรัทน์วรกุล หรือ "บอสพอล" และนายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือ "โค้ชแล็ป" ผู้ต้องหาในคดีดิไอคอน จำนวน 3 ประเด็น คือ ปมนักร้องเรียนหญิง ก. เรียกรับเงิน พ่วงปมพยานเท็จ ของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจ เรียกเงิน 9,000,000 บาท ก่อนถูกรวบโดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 15.00 น. 

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล เปิดเผยหลังการสอบปากคำว่า วันนี้ที่ตำรวจสอบสวนกลางเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก็ให้การไปตามความจริง แต่ไม่ทราบว่า เป็นประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งบอสพอไม่ได้สั่งให้ดำเนินการอะไรเป็นพิเศษ และหลังจากนี้จะให้สัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้าย และพยายามจะพูดให้น้อยลง เนื่องจากเป็นความต้องการของผู้ต้องหา

ยืนยันว่า ไม่ได้ถูกกดดัน แต่จะใช้เวลาไปเตรียมพยานหลักฐาน และรายละเอียดทางสำนวนคดี เพื่อต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เพราะหากดีเอสไอสเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จะได้มีความพร้อมในเอกสารคำให้การ ซึ่งจนถึงขณะนี้ทางดีเอสไอ ยังไม่ได้ประสานเข้ามาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง
 

ทนายบอสพอล แย้ม เตรียมพยาน บิ๊กเซอร์ไพรส์ แก้ข้อกล่าวหา กับดีเอสไอ

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าดีเอสไอ จะเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 8 พ.ย. นี้ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเช่นกัน เพราะยังไม่ได้รับการประสานมา ขอให้ประสานมาก่อน ไม่ใช่เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหา โดยไม่แจ้งทนายความ แบบนี้ตนก็ไม่เอาด้วย ทั้งนี้หากเป็นการแจ้งข้อกล่าวหา ก็พร้อม แต่หากจะให้มีการสอบปากคำคงยังไม่พร้อม เนื่องด้วยสภาพภายในเรือนจำที่มีห้องสอบสวนเพียงห้องเดียว

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บอสพอล ทราบแล้วว่า ดีเอสไอเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ ซึ่งบอสพอไม่ได้มีท่าทีกังวลอะไร และเตรียมสู้คดี ไม่ได้มีการฝากอะไรมาเป็นพิเศษ ให้เป็นหน้าที่ของตนเองในการต่อสู้คดี โดยตนเองได้รายงานความคืบหน้า การเตรียมพยาน แก้ข้อกล่าวหากว่า 2,400 คน  และมีการยืนยันตัวตนแล้ว 1,500 คน รวมถึงพยานผู้เชี่ยวชาญ อีก 1 คน ส่วนพยานที่เป็น บริษัทผลิตสินค้าจะทำคำให้การเป็นเอกสาร มายื่นให้กับดีเอสไอ

พร้อมยอมรับว่า พยานผู้เชี่ยวชาญคนดังกล่าว จะเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ สำหรับการแก้ข้อกล่าวหาในคดีนี้ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย พ.ร.ก.กู้ยืมเงินว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน หรือ แชร์ลูกโซ่ และเคยทำเรื่องแชร์ลูกโซ่มาแล้วหลายเรื่อง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาเป็น 10 ปี และเชื่อว่าจะให้ความรู้ และแง่คิดทางกฎหมาย ที่มีประโยชน์ต่อคดี ซึ่งจะทำให้ดีเอสไอ เห็นอีกมุมหนึ่ง แบบที่ไม่ใช่การถูกกล่าวหาซึ่งความพร้อมในการแก้ข้อกล่าวหาใช้ลูกโซ่ขณะนี้เตรียมพยานหลักฐานได้ในระดับหนึ่งแล้ว
 

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความ

นายวิฑูรย์ ยังกล่าวถึงการจัดทำบัญชีพยานที่จะต้องนำส่งให้กับดีเอสไอ เพื่อนำพยานของผู้ต้องหาในคดีเข้าให้ปากคำด้วยว่า ขณะนี้ที่ดีเอสไอ ยังไม่ได้นัดหมายสอบปากคำ มองว่าดีเอสไอน่าจะยังอ่านรายละเอียดของสำนวนไม่ครบถ้วน จึงยังไม่สามารถตั้งประเด็นในการสอบสวนได้ ซึ่งขณะนี้ทำบัญชีพยานไปแล้ว 1,500 คน และมีการจัดกลุ่มพยาน แบ่งเป็นตามระดับของตัวแทน และจัดกลุ่มขายสินค้า ทั้งขายปลีกขายส่ง และขายออนไลน์

ซึ่งตัวเองก็เตรียมจะยื่นบัญชีพยานและยืนยันว่าดีเอสไอ จะต้องสอบปากคำพยานทุกคน เพราะมองว่า เมื่อมีการสอบปากคำผู้เสียหายทุกคน เช่นเดียวกับพยานฝั่งผู้ต้องหา ที่ต้องการจะให้ปากคำทุกคน จะโยนให้กลับทนายไปทำสรุปคำให้การกว่า 2,000 คนไม่ได้ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับฝั่งผู้ต้องหาด้วย

จะบอกว่าเดี๋ยวคดีล่าช้าผู้เสียหายเสียประโยชน์ ถ้าคดีไม่เรียบร้อย คดีไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้ต้องหาก็เสียประโยชน์เหมือนกัน เพราะนี่คือชีวิตของคนทั้งชีวิต ถ้าเขาแพ้คดีเขาติดตุก เขาเสียอิสระภาพ ซึ่งตอนนี้เขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ เว้นแต่ดีเอสไอจะมองว่า มีธงในใจว่าจะเอามันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมมั่นใจว่าดีเอสไอคงไม่มองขนาดนั้น คงจะมีความเป็นธรรมและความเป็นกลางสูง พยานทุกคนที่นำเสนอจะต้องสอบทุกคนจะมาปิดปาก แล้วส่งอัยการเลยก็ไม่จบ ก็ต้องไปร้องขอความเป็นธรรมวุ่นวายช้าไปอีก


นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า พร้อมยืนยันว่า การให้สอบพยานทุกคนไม่ได้เป็นการข่มขู่ เพราะป็นการเอาพยานไปเสนอให้สอบสวน เพราะคดีอื่นทั่วไปยังเอาพยานทั้งฝั่งเลย แล้วพอคดีดิไอคอน ที่เป็นคดีสำคัญก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝั่งผู้ต้องหาด้วย แม้คดีความความยุติธรรมต้องเป็นไปด้วยความรวดเร็วแต่ความรวดเร็วแบบชุ่ยๆ ก็ไม่ควรมี

ส่วนจะเริ่มสอบปากคำได้เมื่อไรนั้นตนเองไม่ทราบ ทั้งนี้หากให้การได้ช้า อาจจะเพราะต้องสอบเยอะ แต่ก็มองว่ามีวิธีแก้ปัญหาเพราะดีเอสไอ มี 10 ภาค สามารถแบ่งไปในทุกภาคในการช่วยสอบปากคำได้ ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะทันกรอบระยะเวลาฝากขัง 84 วัน หรือไม่ ซึ่งหากไม่ทันคงต้องปล่อยตัว แต่ถ้าจะมาตัดพยานตนเองคงไม่ยอม