ข่าว

ถึงบ้านแล้ว ร่าง หนุ่ม แรงงานไทย ใน อิสราเอล แม่เคาะโลงรับลูกชายทั้งน้ำตา

ถึงบ้านแล้ว ร่าง หนุ่ม แรงงานไทย ใน อิสราเอล แม่เคาะโลงรับลูกชายทั้งน้ำตา

09 พ.ย. 2567

ถึงบ้านแล้ว ร่าง หนุ่มอุดรธานี แรงงานไทย ใน อิสราเอล แม่เคาะโลงรับลูกชายทั้งน้ำตา "ถึงบ้านแล้วนะลูกบักหล่าเอ้ย"

เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (8 พ.ย. 2567) ร่างของ แรงงานไทย ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายอรรคพล วรรณไสย, นายประหยัด พิลาศรัมย์, นายธนา ติจันทึก และนายกวีศักดิ์ ปาปะนัง ที่เสียชีวิต จากเหตุจรวดโจมตีจากเลบานอนไปยังเมืองเมตูลา ทางตอนเหนือของ อิสราเอล เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2567 ได้มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 081 

 

 

โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนกระทรวงแรงงาน นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอล ประจำประเทศไทย และอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมพิธีรับร่างแรงงานและวางพวงหรีดและส่งร่างขึ้นรถนำส่งยังภูลำมิเนา เพื่อให้ทางญาติประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณี 

 

หลังเสร็จพิธีรับร่างแรงงานและวางพวงหรีด ร่างของนายอรรคพล วรรณไสย หนึ่งในแรงงานไทย ชาว อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ได้นำขึ้นรถตู้จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำส่งให้ญาติที่ บ้านดงหมากหลอด ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี และถึงบ้านเมื่อเวลา 00.06 น.ของวันนี้ (9 พ.ย. 2567) โดยมีญาติสนิท ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จากแรงงานจังหวัดอุดรธานี จัดหางานจังหวัดอุดรธานี และฝ่ายปกครองอำเภอกุดจับ เฝ้ารอรับร่างและช่วยงานอย่างเต็มที่ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า 

 

โดยเฉพาะ นางบุญแปง อายุ 56 ปี แม่ของ นายอรรคพล ชาวบ้านและคนมาร่วมงานเห็นแล้วสงสาร มารอรับลูกชายไม่ได้หลับไม่ได้นอนดึกดื่นแค่ไหนก็ยังรอ ทันที่ที่รถตู้จอดหน้าบ้านนางบุญแปงฯ ได้เดินปรี่ไปเคาะโลงศพร่างของลูกชายและพูดว่า "ถึงบ้านแล้วนะลูกบักหล่าเอ้ย" จากนั้นได้นำศพของลูกเข้าบ้านใส่โลงเย็น 

 

 

แรงงานไทย ถึงบ้าน

 

นางบุญแปง บอกว่า สำหรับศพของ นายอรรคพล จะตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเป็นเวลา 2 วัน คือ เสาร์และวันอาทิตย์ ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปฌาปนกิจที่วัดใกล้บ้านในวันที่ 12 พ.ย. 2567 ตอนนี้เสียลูกชายคนโตไปแล้วอนาคตต่อไปก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไรคิดอะไรไม่ออกตอนนี้ หัวอกแม่เสียใจหลังต้องสูญเสียลูกชายไปไม่มีวันกลับ 

 

 

แรงงานไทย ถึงบ้าน

 

 

น.ส.ลีลาวดี ศรีภูธร นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รักษาราชการแทนแรงงานจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยานั้นญาติแรงงานจะเงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีเสียชีวิต ได้แก่ ค่าทำศพ 79,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการทำศพเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 47,000 บาท และเงินชดเชยรายเดือนรายปีสำหรับทายาท ซึ่งกรณีนี้ทายาทของผู้เสียชีวิต คือ คุณพ่อคุณแม่และลูกชายของผู้เสียชีวิตจะได้ส่วนตัวเลขที่แน่นอนทางแรงงานจังหวัดจะได้ประสานกับทางสถานทูตอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง 

 

 

แรงงานไทย ถึงบ้าน

 

 

ส่วนเงินกองทุนช่วยเหลือคนทำงานต่างประเทศ ตอนนี้ทางจัดหางานจังหวัดกำลังหารือตรวจสอบกับกรมการจัดหางานว่าเขายังเป็นสมาชิกกองทุนอยู่หรือเปล่าถ้ายังเป็นเขาจะได้รับเงิน หากไม่เป็นก็จะไม่ได้แต่ข้อมูลตอนนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตไม่เป็นผู้ประกันตน เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพราะก่อหน้านี้เขาเดินทางกลับมา เมื่อปี 2566 และเดินทางกลับไปอีกโดยยังไม่แจ้งกรมการจัดหางาน และทางการยังห้ามเดินทางไปแต่ยังเดินทางไปทำงานที่อิสลาเอล

 

 

โดย : อุดม ปิดตาทานัง