ถูกจับสึกยังไม่เข็ด รุ่งขึ้นพระปลอมห่มขาว เดินเรี่ยไรในตลาด
ถูกจับสึกยังไม่เข็ด เช้าวันรุ่งขึ้น พระปลอมห่มขาว ยังมาเดินเรี่ยไรเงินในตลาด ชาวบ้านเห็นขับรถกระบะมาจอด ก่อนเดินลงมาเรี่ยไร แล้วก็ขับออกไป
11 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพ่อค้าแม่ค้า ในตลาดเช้าบัวทองเคหะ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่า นายนิพนธ์ อายุ 65 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี อดีตพระปลอม ที่มีเอกลักษณ์ท่าเดินก้นโด่ง ไม้เท้า 2 ข้าง คล้ายขาเจ็บและพิการ แปะตาด้วยพลาสเตอร์ ปากคาบนามบัตร ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาและเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวจับสึกไปแล้วเมื่อวานนี้(10พ.ย.2567) นั้น
ล่าสุด พบว่า นายนิพนธ์ ขับรถมาปรากฎตัว ด้วยชุดนุ่งขาวห่มขาว เดินขอบริจาคเรี่ยไรเงิน ที่ตลาดดังกล่าว หลังเพิ่งตกเป็นข่าวถูกจับสึกไปเมื่อวานนี้
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบ นายสุเทพ อายุ 54 ปี คนขับวิน จยย.รับจ้าง เปิดเผยว่า ตนเห็นอดีตพระรายนี้ ขับรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์ สภาพเก่ามาจอดที่ลานจอดรถ ของร้านสะดวกซื้อ เวลาประมาณ 07.00 น. แต่งกายนุ่งขาวห่มขาว พร้อมไม้เท้าพยุงแขน 2 ข้าง ลงมาจากรถ พอลงจากรถมาเขาก็เดินก้นโด่ง ๆ มีพลาสเตอร์ปิดตา ที่ปากคาบใบอะไรสักอย่าง พร้อมกับเปิดลำโพงที่สะพายย่าม เดินมาเดินไปจากหัวตลาดไปท้ายตลาด โดยใช้เวลาในการเดินขอบริจาคไปมาสักชั่วโมงหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับมาที่รถแล้วขับออกไปเอง
มีชาวบ้านบางคน ที่ยังไม่รู้ข่าว ก็ให้เงินทำบุญบริจาคกับเขาไปอีก แต่คงไม่มาก ตนจำเอกลักษณ์ของอดีตพระรูปนี้ที่ตกเป็นข่าวได้ดี ไม่คิดว่าวันนี้เขาจะโผล่มาเดินเรี่ยไรเงินที่ตลาดนี้
ด้านนายณัฐวุธ เนื้อแก้ว อายุ 29 ปี พ่อค้าขายผลไม้ตลาดแห่งนี้ กล่าวว่า เห็นอดีตพระรูปนี้เดินออกมาจากลานจอดรถของร้านสะดวกซื้อ มาถึงก็เดินเปิดลำโพงขอเรี่ยไรเงินมาตลอดทาง ก่อนที่จะมานั่งอยู่ข้างๆร้านตน คล้ายกับมานั่งรับเงิน ตนเลยถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพราะเห็นยังมีคนที่ไม่รู้ข่าวยังคงให้เงินกับอดีตพระรูปนี้ด้วยความไม่รู้ โดยในวันนี้เขาแต่งกายด้วยขุดนุ่งขาวห่มขาว จากที่เมื่อวานนี้ยังคงสวมจีวรพระอยู่ ทั้งนี้หลังถูกจับสึก คิดว่าอดีตพระรูปนี้คงหากินในเมืองไม่ได้แล้ว เลยออกมาหากินนอกเมืองแทน ด้วยวิธีการแบบเดิม โดยเห็นว่ามีคนให้เงินทำบุญกับเขาไปบ้าง อาจจะเป็นเพราะคนให้เขาไม่รู้ข่าว ประกอบกับ ตลาดแห่งนี้มีผู้สูงอายุใจบุญเยอะ จึงมักชอบมีคนพวกแฝงตัวมาหากิน
ด้าน น.ส.พิมพ์ อายุ 55 ปี แม่ค้าขายถุงเท้า กล่าวว่า ตนเห็นเขาแล้วยังรู้สึกหงุดหงิดใจ ขัดลูกตาอย่างมาก สภาพวันนี้เหมือนชูชกมากกว่า
ด้านนายวรชัย อายุ 76 ปี พ่อค้าปาท่องโก๋ กล่าวว่า ตนไปเตือนเขาให้ลดเสียงลำโพงลง แต่เขาไม่สนใจ ก็ยังเปิดเสียงดังต่อไป จนกระทั่งก่อนที่เขาจะกลับ ด้วยความสงสัยจึงเดินตามไปดู จึงเห็นว่าเขาขับรถกระบะมาเอง แล้วขับกลับเอง เลยจดทะเบียนรถเอาไว้ เป็นรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์