เนชั่น ทีวี จับมือ สำนักงานอัยการสูงสุด สื่อกลางช่วยเหลือประชาชนเดือดร้อน
เนชั่น ทีวี จับมือสำนักงานอัยการสูงสุด ขอเป็นสื่อกลางร่วมแก้ปัญหาด้านกฎหมาย ยกระดับรายการช่วยเหลือสังคม ลดกระบวนการถูกหลอกใช้จากกลุ่มทนายหิวแสง
11 พ.ย. 2567 เนชั่นทีวี ร่วมกับ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดตัวรายการ "เนชั่นคลายทุกข์" ที่จะเริ่มอ่อนแอทางเนชั่นทีวี 22 ในวันที่ 17 พ.ย. 2567 นี้ ซึ่งเป็นรายการสานต่อความสำเร็จจากรายการหมอความมหาชน ในการช่วยเหลือประชาชนเดือดร้อน และแก้ปัญหาด้านกฎหมายในวันที่สังคมมีภัยทำให้ประชาชนถูกหลอกใช้จากผู้ที่ผมอยากเรียกว่าเป็นกลุ่มทนายหิวแสง
ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เนชั่นกรุ๊ป กล่าวถึงความตั้งใจในการพัฒนารายการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือด้านกฎหมายว่า ในวันที่สังคมมีภัย ทำให้ประชาชนถูกหลอกใช้จากผู้ที่ตนอยากเรียกว่า เป็นกลุ่มทนายหิวแสง
ปัญหาด้านข้อกฎหมาย เป็นสิ่งที่สลับซับซ้อนสำหรับประชาชนที่ต้องการที่พึ่ง เมื่อถูกหลอกลวงหรือเอารัดเอาเปรียบจนทำให้สูญเสียสิทธิ์ทางกฎหมาย ซึ่งทำให้เกิดกระบวนการ "โจรในคราบนักบุญ" เข้ามาอาสาช่วยเหลือ สุดท้ายเกิดการเอารัดเอาเปรียบซ้ำเติมมากกว่าเดิม ทั้งๆที่สำนักอัยการสูงสุด มีกรมคุ้มครองสิทธิ์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ในฐานะ เนชั่น ทีวี เราไม่ใช่ศาลที่จะไปพิพากษา เพียงแต่เราทำหน้าที่เป็นสื่อกลางร่วมกับสำนักงานคุ้มครองสิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา เนชั่น ทีวี ผลิตรายการหมอความมหาชน แต่ด้วยบริบทของสังคมที่ถูกหลอก เราจึงอยากยกระดับขึ้นมาเป็นรายการ เนชั่นระวังภัย ที่จะออกรายการทุกๆ วันจันทร์ - ศุกร์ และรายการเนชั่นคลายทุกข์ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.30-23.00 น.
ซึ่งทั้งหมดนี้คือเจตนา และความตั้งใจที่ เนชั่น อยากจะสานต่อสิ่งที่เราได้เริ่มมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชน
ขณะที่ โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า เนชั่น ทีวี เปิดพื้นที่ให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ เข้ามาสู่ข้อมูลข่าวสาร ที่ทำให้ประชาชนรู้ว่า เกิดปัญหาชีวิตแล้วไปไม่ถูก หมดหนทาง แต่เมื่อดูรายการแล้วเราจะรู้ว่า ไปถูกแน่ มีหนทางแน่ ชีวิตไม่มีทางตัน เช่น หนี้นอกระบบ หนี้เงินไม่ใช่หนี้ชีวิต เป็นหนี้ไม่ต้องฆ่าตัวตาย ไม่ต้องทำร้ายตัวเอง เราช่วยได้และช่วยรอดทุกกรณี ต่อให้จะล้มละลาย เรามีทางไปต่อได้
หากว่าประชาชน มีปัญหาสามารถไปร้องทุกข์ได้ที่ กรมคุ้มครองสิทธิฯ 122 สาขาทั่วประเทศทุกจังหวัด หรือโทร 1157 จะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก แนะนำต้องไปที่ใด โดยไม่ต้องเดินทางมาที่กรุงเทพมหานคร
ด้าน นิรันด์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ ประชาชน กล่าวถึง "อาสาสมัครอัยการช่วยได้" โครงการใหม่ตามนโยบายของท่านอัยการสูงสุดสนับสนุนให้อัยการเข้าถึงประชาชนและช่วยเหลือทางกฎหมาย ว่า เรามีอัยการคุ้มครองสิทธิดูแลพี่น้องประชาชนอยู่ทุกจังหวัด แต่ว่าด้วยจำนวนคนที่น้อย จังหวัดหนึ่งประมาณ 2-3 คน ที่จะเข้าไปดูแลประชาชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงค่อนข้างที่จะยากลำบาก
ดังนั้นจำเป็นจะต้องมี "อาสา" ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เปิดให้มีอาสาตำบลละ 2 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดรับสมัคร ขอให้มาช่วยกัน เพราะการมีประชาชนที่เป็นอาสาสมัครจะช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆในท้องถิ่นของเขาได้ และพบว่าจะสามารถช่วยเหลือขับเคลื่อนงานของอัยการได้ต่อเนื่องและยั่งยืนมากกว่าที่เราทำอยู่
ด้าน นริศ ชำนาญชานันท์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน กล่าวถึง เครือข่ายการช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศและต้องการความช่วยเหลือว่า ปัจจุบันคนไทยไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น พอไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ก็เกิดวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป เจอเหตุการณ์ร้ายๆ อุบัติเหตุ โกงเงิน หลอกลวง ปัญหาเหล่านี้ต้องใช้ข้อกฎหมาย ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิมีหน้าที่ช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิ
อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวในวันนี้ได้เชิญผู้เสียหายที่ได้รับการช่วยเหลือจากรายการหมอความมหาชนจำนวน 2 เคส มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
เคสที่ 1 สาวถูกหลอกไปทำงานร้านนวดสปา ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ หรือ ดูไบ แต่เมื่อไปถึงนายจ้างยึดหนังสือเดินทาง และให้ค้าประเวณี ทั้งๆที่ผู้เสียหายเคยแจ้งความประสงค์ขอไม่รับแขก จากนั้นได้รีบติดต่อกลับมาขอความช่วยเหลือกับคุณย่าที่อยู่ประเทศไทย พร้อมบอกว่า หากไม่ช่วยภายใน 24 ชั่วโมง จะฆ่าตัวตาย ทันทีที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ ได้รับแจ้ง ก็รีบติดต่อไปยังอธิบดีกรมการกงศุล และได้รับความร่วมมือ พร้อมเจรจานายจ้าง ขอตัวผู้เสียหายกลับ จนนายจ้างยินยอมคืนตัวน้องให้กับสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ภายใน 5 ชั่วโมง และส่งตัวกลับประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย
เคสที่ 2 ลุงรปภ. สมัครงานที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เงินเดือน 15,000 บาท แต่ละเดือนเบิกได้ไม่เกิน 5,000 บาท โดยตลอด 6 ปี ไม่ได้รับเงิน รวมกว่า 360,000 บาท อีกทั้งต้องสูญเสียข้างซ้าย เพราะป่วยด้วยโรคประจำตัวและต้องเข้างานกะกลางคืน ส่วนตาข้างขวา ขณะนี้มองได้เพียง 20 % เท่านั้นไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิมอีก ทำให้ลูกสาวติดต่อไปหายังสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ เข้าช่วยเหลือ ซึ่งทางอัยการจังหวัดปทุมธานีได้ประสานไปยังกระทรวงแรงงานเช่นกัน เนื่องจากมีโทษทางอาญาและแพ่งไม่จ่ายค่าแรงรวมถึงการถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และนายจ้างไม่จ่ายเงินค่าจ้างที่ค้างไว้
โดยลูกสาวลุง รปภ. ขอบคุณเนชั่นและอัยการโกศลวัฒน์ ที่ให้ความช่วยเหลือเคสเล็กๆ เพราะก่อนหน้านี้ คิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว
สำหรับรายการ "เนชั่นคลายทุกข์" เป็นรายการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากพี่น้องประชาชน มีการเชิญผู้เสียหายมาร่วมพูดคุยกับพิธีกร โดยมีท่านโกศลวัฒน์ ให้เกียรติเป็นผู้ทรงคุณวุฒิประจำรายการในการช่วยแก้ปัญหา พร้อมเสนอทางออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเด็นข้อกฎหมาย ร่วมด้วย"แอล" สรารัตน์ รัตนสุวรรณ ผู้ประกาศข่าวมากความสามารถ ซึ่งรายการเนชั่นคลายทุกช์ ออกอากาศทุกวัน อาทิตย์ เวลา 22.30 – 23.00 น.
นอกจากนี้ เนชั่น ทีวี ยังได้ผลิตรายการ "เนชั่นระวังภัย" รายการที่ช่วยเตือนภัยทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นให้ประชาชนได้ระมัดระวังและตระหนักในภัยต่างๆที่ปัจจุบันมีมาหลากหลายรูปแบบ ออกอากาศทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 13.40 – 14.15 น. และในรายการ "เนชั่นระวังภัย" ยังได้เพิ่มช่วงของ "เนชั่นพร้อมช่วย" ที่พร้อมเป็นสื่อกลางในการเปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์ ในการช่วยเหลือ แก้ปัญหา บรรเทาความเดือดร้อน ทั้งทางด้านกฏหมาย ภัยต่างๆ หรือความเสียหายที่เกิดจากบริการสาธารณะ เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียน “เนชั่นพร้อมช่วย” จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือต่อไป
ภาพ ศุกร์ภมร เฮงประภากร (Sukpamorn Hengprapakorn)
#NationPhoto #เนชั่นคลายทุกข์ #เนชั่นระวังภัย #เนชั่นพร้อมช่วย #เนชั่นทีวี #สำนักงานอัยการสูงสุด