"บิ๊กก้อง" อัปเดต คดี "ดิไอคอน" สอบพยานแล้ว 1 หมื่นปาก เร่งสรุปส่งดีเอสไอ
"บิ๊กก้อง" เผย คดี "ดิไอคอน" สอบพยานแล้ว 1 หมื่นปาก เร่งตรวจสอบความถูกต้องเอกสาร สรุปส่งดีเอสไอ
11 พ.ย. 2567 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" กรณีของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ว่า วันนี้ช่วงบ่ายจะมีการประชุมเพิ่มเติม และจะรีบเร่งรัดคดีให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่ แต่จะพยายามให้เร็วที่สุด ที่เหลือจะต้องมีการสอบสวนพยานอีกหลายส่วน ซึ่งการประชุมวันนี้จะสามารถบอกได้ว่า สำนวนจะเสร็จวันไหน
เมื่อถามว่าเบื้องต้นเข้าข่ายความผิดข้อไหนบ้าง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ที่ทำอยู่ คือกรรโชกทรัพย์ เพราะพยานหลักฐานชัดเจน แต่ทราบข้อมูลมาว่า พยานยังให้การเรื่องวันที่การจ่ายเงิน ยังไม่ชัดเจนเท่าไร แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ น่าจะชัดเจนแล้ว
ส่วนเรื่องที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้มีการกล่าวอ้างว่า มีตำรวจกองปราบเรียกรับเงินจากกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 9 ล้านบาท ตนได้เรียกนายอัจฉริยะ และคนที่ให้ข้อมูลกับนายอัจฉริยะ มาสอบปากคำ ยืนยันว่าไม่มีการจ่ายเงิน เพียงแค่ได้ยินข่าวมาจากคนใกล้ชิด "โค้ชแล็ป" ว่ามีการเรียก ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อบุคคลใกล้ชิดคนดังกล่าวได้ จากการตรวจสอบไม่พบพยานหลักฐาน ถ้าพบว่าตำรวจมีการกระทำดังกล่าวก็จะมีการลงโทษตามกฎหมาย
และจากการสอบถามภรรยาของโค้ชแล็ป และบอสพอล พบว่าไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด ถ้าหากพบจะไปไล่ดูกล้องและมือถือ แต่ปรากฏว่าไม่พบหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงได้ ตนมองว่าในส่วนตรงนี้ทำให้ทางตำรวจสอบสวนกลางเสื่อมเสียชื่อเสียง
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวต่อว่า มีการสอบปากคำไปแล้วกว่า 10,000 ปาก และส่งเอกสารไปแล้วกว่า 5,800 ปาก และที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบความเรียบร้อยของเอกสาร ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะนำทั้งหมดส่งให้ดีเอสไอทำต่อ และจากการพูดคุยกับดีเอสไอ คาดว่าจะสรุปสำนวนทั้งหมดทันครบฝากสุดท้าย และจะต้องเสร็จให้ทันตามกรอบระยะเวลา 48 วัน หรือถ้าไม่ทันตามกรอบระยะเวลา จะมีการปล่อยตัวผู้ต้องหา แต่ว่าไม่มีการตัดสิทธิ์ในการฟ้องร้อง หลังจากนั้นจะเรียกผู้ต้องหามาฟ้องเพิ่ม ถ้ามีคนช่วยปกปิดอำพรางก็จะมีการดำเนินคดีกับบุคคลนั้น