ข่าว

ตร.เร่งเอาผิด พระโปรโมทเว็บพนัน กรรมการวัด เผยที่มาชื่อ "หลวงพี่พันล้าน"

ตร.เร่งเอาผิด พระโปรโมทเว็บพนัน กรรมการวัด เผยที่มาชื่อ "หลวงพี่พันล้าน"

14 พ.ย. 2567

ไม่จบแค่สึก ตร.เร่งเอาผิด พระโปรโมทเว็บพนัน ด้าน กรรมการวัด เผยที่มาชื่อ "หลวงพี่พันล้าน"

จากกรณี "แพรรี่ ไพรวัลย์" หรือ อดีตพระมหาไพรวัลย์ โพสต์แฉพระวัดดัง ที่มีผู้ติดตามกว่า 3.4 แสนราย รับโปรโมทเว็บพนันผ่านเพจ พร้อมตั้งคำถามว่า นี่เป็นกิจของสงฆ์ใช่หรือไม่ และที่สำคัญการโปรโมทเว็บพนันผิดกฎหมาย

เมื่อตรวจสอบเพจดังกล่าว พบได้โพสต์สตอรี่รูปเงินปึกใหญ่ พร้อมระบุแคปชั่น "ได้แล้ววันนี้ขอรีบกดออกมาใช้หน่อย ขอบคุณรายได้เสริมครับ" และอีกภาพเป็นรายการเงินเข้าบัญชีจำนวน 12,750 บาท และ 5,800 บาท พร้อมระบุแคปชั่นในภาพว่า "หากชีวิตเต็มไปด้วยเงิน อะไรๆ ก็ง่ายขึ้น ไม่ต้องเชื่อแต่ต้องลอง"

ต่อมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งเร่งตรวจสอบ พร้อมระบุว่า เป็นเพจของพระภิกษุ วัดแห่งหนึ่ง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ต่อมาได้รับรายงานว่า พระภิกษุรูปดังกล่าวได้ลาสิกขาเเล้ว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ตร.เร่งเอาผิด พระโปรโมทเว็บพนัน กรรมการวัด เผยที่มาชื่อ \"หลวงพี่พันล้าน\"

14 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้พบกับ นายประเสริฐ (สงวนนามสกุล)กรรมการวัด เปิดเผยว่า จากการที่ดูภาพ พระรูปนี้อยู่ที่วัดแห่งนี้จริง และเป็นพระที่สอนอยู่โรงเรียนพระปริยัติธรรม แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าไปไหน ปกติจะเห็นพระรูปนี้ ขับรถเก๋งสีขาว ขับกลับไปกลับมาประจำ ส่วนเรื่องที่มีการชักชวนเล่นการพนันนั้น ตนไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ ส่วนที่ได้ตั้งฉายาว่า "หลวงพี่พันล้าน" นั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องการพนัน แต่เป็นศีรษะของหลวงพี่ที่ล้าน จึงเป็นที่เรียกกันแค่นั้นเอง
 

ตร.เร่งเอาผิด พระโปรโมทเว็บพนัน กรรมการวัด เผยที่มาชื่อ \"หลวงพี่พันล้าน\"

ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อกับเจ้าอาวาส วัดแห่งนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้สอบถามข้อมูลกับ เณรภายในวัดแห่งนี้ ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (13 พ.ย. 2567) เจ้าอาวาสได้ทำการสึกพระรูปนี้ไปแล้ว ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นในเรื่องการพนันอยู่ในตอนนี้ และคาดว่าน่าจะกลับบ้านที่ อ.ปรางค์กู่

พ.ต.อ.นิลกาฬ พรศักดิ์ ผกก.สภ.อุทุมพรพิสัย เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้มีการตรวจสอบข้อมูล ที่มีการนำมาโพสต์ในโลกออนไลน์ดังกล่าว ว่าเป็นเฟซบุ๊กจริงหรือไม่ ถ้าหากเป็นเฟซบุ๊กของพระรูปดังกล่าวจริง จะได้ทำการประสานข้อมูลกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อหารือในเรื่องนี้ หากสึกออกจากความเป็นพระ ก็จะได้ทำการดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป