เช็คเลย 7 อำเภอ ใน 7 จังหวัด พื้นที่ไหนยังแล้ง เตรียมกักเก็บน้ำ 3 วันนี้
"รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี"แนะ 7 อำเภอ ใน 7 จังหวัด พื้นที่แล้ง ศปช. ส่งสัญญาณเตรียมกักเก็บน้ำได้ 3 วันนี้ เพราะจะมีฝนหนักถึงหนักมาก ยอมรับหนาวนี้ยังมีฝน เป็นผลจากสภาพอากาศแปรปรวน
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภููมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. มอบหมายให้ ศปช. ติดตามสถานการณ์น้ำของประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด
ปัจจุบันประเทศไทยเว้นภาคใต้เข้าสู่ฤดูหนาวและเป็นช่วงหน้าแล้ง แต่ยังมีฝนตกกระจาย ฝนตกหนักถึงหนักมาก จากสภาพอากาศแปรปรวน เห็นได้ชัดว่า ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นอกจากนี้ช่วงวันที่ 16 -18 พ.ย. คาดการณ์จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณพื้นที่ อ.ท่าลี่ จ.เลย , อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา , อ.วังทอง จ.พิษณุโลก , อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี , อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี , อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี และ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประเมินว่า จะส่งผลดีต่อการกักเก็บน้ำเพิ่มเติมบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำช่วงหน้าแล้งได้และไม่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมซ้ำอีก
"ฝนที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เป็นผลจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทำให้มีฝนตกในฤดูหนาว อีกทั้งช่วง 3 วันนี้ ยังมีฝนตกหนักถึงหนักมากใน 7 อำเภอของ 7 จังหวัด ช่วยบรรเทาภัยแล้งได้ จากนั้นตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. เป็นต้นไป ฝนบริเวณภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกจะลดลง ส่วนฝนทางตอนบนเริ่มลดลงอย่างชัดเจน"
นางสาวศศิกานต์ กล่าวด้วยว่า ระยะนี้มวลอากาศเย็นอ่อนกำลังลง แต่ยังคงปกคลุมภาคเหนือ ทำให้มีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังมีฝนเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะที่ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งภาคใต้ตั้งแต่สุราษฏร์ธานีลงไป และภาคใต้ตอนล่างที่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ปริมาณฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นวันที่ 19-24 พ.ย. ภาคใต้ยังมีเกณฑ์ฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงต้องเฝ้าระวังและแจ้งเตือนอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน พร้อมเร่งบริหารจัดการน้ำไว้รองรับเพื่อป้องกับผลกระทบแก่ประชาชน
อย่างไรก็ตามภาพรวมน้ำในอ่างเก็บน้ำและระดับน้ำในลำน้ำต่างๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่น่ากังวลเรื่องการเกิดน้ำล้นตลิ่ง แต่ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขณะที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงเดียวกัน จะได้สัมผัสอากาศเย็นถึงหนาวอีกระลอก จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลง ระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก
ส่วนพายุไต้ฝุ่น "หม่านหยี่ (MAN-YI)" คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะลูซอล ลงสู่ทะเลจีนใต้เช้าวันที่ 18 พ.ย. และเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ก่อนอ่อนกำลังและสลายตัวใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม พายุนี้ไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย เพราะเป็นช่วงที่มวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมทางตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ