"กัน จอมพลัง" รุดช่วย หนูน้อย 3 เดือน ถูกแม่วัยใส อายุ 15 ปี หลอนยา ทำร้ายร่างกาย | คมชัดลึก

17 พ.ย. 2567 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สน.บางเสาธง และเจ้าหน้าที่ กรมกิจการเด็กและเยาวชน เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยบางแวก 112 แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือ เด็กทารกวัย 3 เดือน หลังทราบว่า ทารกถูกแม่แท้ๆ วัยละอ่อน อายุ 15 ปี ทำร้ายร่างกาย เมื่อไปถึงพบเพียงทารก เพศชาย ยาย และญาติพี่น้อง ส่วนแม่แท้ๆ หายตัวไป

กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังทราบเรื่องค่อนข้างตกใจ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนภายในครอบครัว จึงประสานตำรวจ และ พม. มาตรวจสอบ แต่แม่ของเด็กไหวตัวหนีไป และทิ้งลูกชายไว้กับยาย สิ่งที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ต้องการจะเอาผิดแม่เด็ก แต่ต้องการช่วยเหลือในมุมสภาพจิตใจ และความเป็นอยู่ เพราะแม่เด็กเพิ่งอายุ 15 ปี มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และลูกที่เกิดมาเพิ่ง 3 เดือน

ส่วนตัวอยากจะสื่อสารผ่านสื่อ ว่าอยากให้เขากลับมาและพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ต้องหลบหนี เพราะยังไงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตามเจอ ทั้งนี้ ญาติของเด็กอายุ 15 ปี ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว หากใครพาตัวไปหรือให้การช่วยเหลือ จะเข้าข่ายพรากผู้เยาว์

กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นค่อนข้างสะเทือนใจกับสังคม เนื่องจากเจ้าตัวเองทราบว่ามีการขายบริการตั้งแต่อายุ 12 ปี และตั้งครรภ์โดยที่ไม่ทราบว่าพ่อเด็กเป็นใคร หนำซ้ำก่อนหน้านี้ก็มีการขายบริการให้กับกลุ่มผู้ชายมากหน้าหลายตา จนทำให้เด็กเองมีสภาพภาวะไม่แข็งแรง และเกิดมาโดยที่ไม่พร้อม แต่ที่หนักใจและเป็นห่วงมากที่สุดคือ หลังจากที่เขาเองเล่นยาแล้วมีอาการหลอนมักจะทำร้ายลูกเป็นประจำ
 

ด้าน นางวาสนา อายุ 56 ปี ป้าของ น.ส.เอ อายุ 15 ปี บอกว่า ปกติหลานอาศัยอยู่กับพี่สาว แม่เสียไปแล้ว ส่วนพ่อแยกทางไป ตนเองก็มาช่วยเขาดูเขากับหลาน ยอมรับว่าเขายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเคยมีประวัติเกี่ยวกับเรื่องของการขายบริการ

ซึ่งแม้ว่าเขาจะมีลักษณะเป็นสาวหล่อ แต่ก่อนหน้านี้เขาถูกข่มขืน ทำให้เขาเปลี่ยนไปลักษณะชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ส่วนใหญ่ขายบริการเพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพ แม้ตอนตั้งครรภ์ จนลูกเขาผิดปกติ ตนเองตักเตือนประจำ เลยเคยพาไปบำบัดมาหลายครั้ง แต่เขาก็ยังไม่เลิก

ตนเองอยากให้ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือ ช่วยพาเขาไปบำบัด เพราะเวลาเขาหลอนยา มักทำร้ายลูก 3 เดือน ทั้ง ทุบตี และบีบคอ เกรงว่าในอนาคตจะได้รับอันตรายมากกว่านี้