ประวัติ "ทนายพัช" ทนายขวัญใจชาวนา สู่ผู้ต้องโทษคุก 2 ปี คดี "แอม ไซยาไนด์" | คมชัดลึก

"ทนายพัช" หรือ ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ ทนายความ "แอม ไซยาไนด์" คดีความสะเทือนขวัญที่สังคมให้ความสนใจอย่างมากในต้นปี 2566 ภายหลังการเสียชีวิตขิง "ก้อย ศิริพร" โดย "แอม สรารัตน์" เพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิต ตกเป็นผู้ต้องหาเบอร์ 1 ของคดีนี้ โดย แอม กลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่า วางยาพิษหรือก็คือ "ไซยาไนด์" ในอาหาร เครื่องดื่ม ให้กับ "ก้อย" จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต 

 

"แอม ไซยาไนด์" กลายเป็นชื่อเรียกของผู้ต้องหา นอกจากนี้เธอยังถูกกล่าวหาว่า ขโมยทรัพย์สินอื่นๆ ของก้อยไปด้วย โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1.5 แสนบาท โดยคดีนี้มี "ทนายพัช" เป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องของกลางผ่านรายการดัง โดยกล่าวว่า ของกลางไม่ใช่เรื่องจริง ถ้ามีของกลางอาจจะเป็นการยัดยา การจับกุมต้องมีของกลาง แต่กรณีนี้ไม่มี แถมยังอ้างว่าลูกความของตน เป็นแค่ผู้โชคร้ายที่อยู่ในเหตุการณ์นี้

 

คดี "แอม ไซยาไนด์" ถูกพิพากษาในวันที่ 20 พ.ย. 2567 โดย ศาลอาญา พิพากษาประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" นางสรารัตน์ รังสิตวุฒาภรณ์ ชี้มูลความผิดมีเจตนาฆ่า น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย อายุ 32 ปี ด้วยการนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) ซึ่งเป็นสารพิษปลอมปนใส่ลงในอาหาร หรือน้ำดื่ม จนเป็นที่มาของการเสียชีวิต

 

ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามี และอดีตรองผกก.สภ.สวนผึ้ง จำเลยที่ 2 ศาลพิจารณาโทษจำคุก 1 ปี 4 เดือน และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัตร์ หรือ ทนายพัช จำเลยที่ 3 จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา รวมถึงชดใช้เงินแก่มารดาของก้อยผู้เสียชีวิตจำนวน 2.4 ล้านบาท

 

ประวัติ ทนายพัช 

 

สำหรับ "ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์" หรือ "ทนายพัช" เป็นเจ้าของสำนักงานกฎหมาย ธันย์นิชา ลอว์ และมีชื่อเป็นหนึ่งในกรรมการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นแซดพี โซญิ ซุรุ ไทย โดยทำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร เธอกลายเป็นที่รู้จัก เพราะรับเป็นทนายความให้ “แอม ไซยาไนด์” ที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญ วางยาฆ่าเหยื่อ 14 ศพ อีกทั้ง เธอเคยว่าความคดีฉ้อโกงให้แอม ชนะรวด 2 คดีอีกด้วย

 

"ทนายพัช" เป็นที่ฮือฮา และได้รับการกล่าวขวัญถึงจากบรรดานักข่าว หลังเปิดตัวรับเป็นทนายความให้ “แอม ไซยาไนด์” ด้วยบุคลิก และการตอบคำถาม ที่ไม่เหมือนใคร จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ คมชัดลึก สรุป เส้นทาง ทนายสาว ที่เธอเคยบอกว่า เธอเป็น "ทนายความขวัญใจชาวนา"

 

ทนายนางงาม

 

1. ”ทนายพัช” มีชื่อจริงว่า ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ ปัจจุบันอายุ 36 ปี เป็นเจ้าของสำนักงานกฏหมาย ธันย์นิชา ลอว์ และมีชื่อเป็นหนึ่งในกรรมการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นแซดพี โซญิ ซุรุ ไทย เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท

 

2. ชื่อของ ”ทนายพัช” เป็นที่รู้จัก หลังรับเป็นทนายความให้ “แอม ไซยาไนด์” ผู้ต้องหาก่อคดีสะเทือนขวัญ วางยาฆ่าเหยื่อ 14 ศพ ด้วยความมั่นใจว่าจะสามารถว่าความให้แอม ชนะคดีได้ เพราะผลงานที่ผ่านมา เธอเคยว่าความคดีฉ้อโกงให้แอม ชนะรวด 2 คดี

 

3. ความโดดเด่นของ “ทนายพัช” คือความมั่นใจในการตอบคำถาม โดยเธอถูกพูดถึงบนโลกโซเชียลอย่างหนัก ในระหว่างที่เธอตอบคำถามและชี้แจงประเด็นต่างๆ ของลูกความ คือ “แอม” กับพิธีกรในรายการ ด้วยลักษณะน้ำเสียงที่พูดออกมาไม่เหมาะสม

 

4. หลังจากนั้นเป็นต้นมา โลกโซเชียลที่เริ่มขุดคุ้ยประวัติความเป็นมาของ “ทนายพัช” มีการแห่แชร์ภาพของทนายพัช ที่ถ่ายเอง กับภาพที่นักข่าวถ่ายมา เหมือนไม่ใช่คนเดียวกัน จนเกิดกระแสร้อนๆ ตามมาว่า “ไม่ตรงปก”

 

5. เธอออกมาตอบโต้ทันทีว่า เรื่องที่เป็นกระแสตอนนี้ คือรูปของพี่ไม่ตรงปก อย่าบูลลี่ พี่ขอชี้แจงไม่จริงนะ ตอนนั้นพี่เหนื่อย พี่ทำงานหนัก ภาพเลยออกมาเป็นแบบนั้น แต่ตอนเช้าพี่สวยมากนะ เรามาเจอนักข่าวผิดเวลา

 

 

6. ชื่อของ “ทนายพัช” เป็นกระแสทันที เธอเริ่มออกเดินสายให้สัมภาษณ์ตามรายการต่างๆ โดยเฉพาะกระแสไม่ตรงปก เธอยังฝากบอก “บุ๋ม ปนัดดา” พิธีกรสาวในรายการ เคลียร์ ชัด ชัด ด้วยว่า “พี่นี่ประกวดนางสาวไทยรุ่นพี่พี่บุ๋ม หน้าแบบนี้ หน้านางงามนะจ๊ะ และยังได้รางวัลขวัญใจชาวนา เมื่อปี 2540-2541 ด้วย ที่สำคัญลูกความบอกว่า ตัวจริงพี่สวยกว่าในรูปอีก”

 

7. กระแสของ “ทนายพัช” ยังปังไม่หยุด เมื่อเธอเดินหน้าเป็นทนายให้ “แอม ไซยาไนด์” ด้วยความมั่นใจว่า ลูกความของเธอไม่ได้ทำความผิด และเธอเป็นคนเดียวที่ แอม ไว้วางใจเพียงคนเดียว ที่เข้าไปพูดคุยในทัณฑสถานหญิงกลาง

 

8. แต่อยู่ๆ ก็มีเรื่องให้ชาวเน็ตตกใจ เมื่อ “แอม ไซยาไนด์” บอกว่า เธอเปลี่ยนตัวทนายความแล้ว โดย “ทนายพัช” ไม่ใช่ทนายความของเธออีกต่อไป ซึ่งตัวของทนายพัชเอง ก็ยืนยันตามนั้นเช่นกัน แต่ไม่รู้สาเหตุถึงการเปลี่ยนตัวครั้งนี้

 

9. ในที่สุด “แอม ไซยาไนด์” ได้ตั้ง ทนายพัช กลับมาทำคดีให้อีกครั้ง และนอกจากจะให้เป็นทนายความต่อสู้ในทุกคดีที่แอมถูกหมายจับแล้ว ยังให้ทนายพัช ดำเนินการฟ้องร้องทุกคน ที่ทำให้แอมเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย

 

10. คดีของแอม ไซยาไนด์ ถูกสางต่อไป จนพบผู้เกี่ยวข้องอีก 1 คน ที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับ หลังพบพยานหลักฐานว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง หรืออยู่เบื้องหลังการจัดส่งกระเป๋าแบรนด์เนม และทรัพย์สินของเหยื่อ “แอม ไซยาไนด์”

 

11. โดยตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ “ทนายพัช” ในข้อหาช่วยปกปิดพยานหลักฐาน แต่ศาลอนุมัติเพียงให้เรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหา

 

12. หลังจากนั้น “ทนายพัช” หายตัวไปทันที มีการเบี้ยวการเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับตำรวจ ทั้งที่มีการออกสื่อว่าจะเข้าพบตำรวจวันไหน เวลาใด มีการพยายามติดต่อ แต่ยังไร้วี่แวว

 

13. ล่าสุด มีรายงานว่า ตำรวจเดตไลน์ “ทนายพัช” โดยส่งหมายเรียกไปยังบ้านใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมนัดหมายมาเข้าพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ล่าสุด ทนายพัช ได้ติดต่อกลับมาแล้ว และขอเลื่อนมาเข้าพบช่วงบ่ายของวันที่ 31 พ.ค. แทน