สาวขี่ จยย. ส่งน้องไปเรียน เจอ ป้าข้างบ้าน ขี่รถไล่ตามมาตบ ถึงหน้าโรงเรียน | คมชัดลึก

23 พ.ย. 2567 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราว "ส่งน้องไปเรียนแทนแม่ทำงาน แต่ลูกฉันโดนผู้ใหญ่ใหญ่ใจ ทำร้าย( อายุประมาณ 55 เรียกว่าผู้ใหญ่มั้ย) ขับ มอเตอร์ไซค์ตามลูกฉันไปส่งน้อง ป.3 ที่ รร ด่าตลอดทาง ลูกสาวกลัวน้องอาย เลยจอดมอไซค์ ให้น้องเดินเข้าเรียนแต่ผู้ใหญ่ไม่จบ ทำร้ายเด็ก ม.6 ทำฉันไม่ได้ทำลูกฉันต้องเป็นคนยังไงก่อน ใครสามารถช่วงฉันได้บ้างเพราะแจ้งความแล้วไม่ได้รับความร่วมมือ" พร้อมลงภาพลูกสาวถูกทำร้ายนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบผู้โพสต์ชื่อ น.ส.จันทร์ทิพย์ อายุ 33 ปี ชาวต.บ้านปรก อ.เมืองจ.สมุทรสงคราม พาบุตรสาววัย 18 ปี ไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณริมถนนหน้า รร.เมืองสมุทรสงคราม พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนกับคู่กรณีซึ่งอยู่บ้านติดกันมา 2 ปีแล้ว เนื่องจากตนไม่ให้เพื่อนบ้านต่อไฟ และไม่ชอบหน้าตน ที่เปิดร้านเสริมสวย ที่ผ่านมาเจอปัญหาส่งเสียงดัง หมาเข้าบ้านและมีการด่าทอกันมาโดยตลอด ที่ผ่านมาก็มีการไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่จบมานายหลายปี ตนจึงถอยเตรียมขายบ้านหนี แต่บ้านยังขายไม่ได้ จึงต้องอดทนมาโดยตลอด

ในวันเกิดเหตุตนออกไปรับจ้างทำผมตอนตี 4 จึงให้ลูกสาวคนโตวัย 18 ปี ขับขี่รถ จยย.มาส่งลูกชายคนเล็ก โดยมียายมาเป็นเพื่อน เพราะกลัวถูกดักทำร้ายเพราะโดนข่มขู่มาก่อนหน้านี้ กระทั่งช่วงสายๆลูกสาวส่งข้อความมาบอกว่าโดนตบ ตนจึงโทรหาจนทราบว่าป้าข้างบ้านดักตบ ตนจึงไปรับลูกสาว ออกมา แจ้งความ ชี้จุดเกิดเหตุ และตรวจร่ายกายแล้ว แต่บริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ 

ด้านผู้เสียหายวัย 18 ปี เล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 07:20 น. ตนขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่งน้องชาย โดยมียายมาด้วย อยู่ๆได้มี น.ส.สุธารัตน์ หรืออ้อย เพื่อนบ้านที่เคยมีปัญหากันมานาน ได้ขับรถจี้ท้าย และบีบแตรใส่รถที่ผู้แจ้งขับมา แล้วได้ด่ากันไปมาระหว่างยาย กับ น.ส.สุธารัตน์ ผูก่อเหตุ ตอนแรกตนเร่งเครื่องหนี กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ ตนจึงจอดรถให้ยายพาน้องชายไปส่งใน ร.ร.เมืองสมุทรสงคราม 

จากนั้น น.ส.สุธารัตน์ ได้จอตรถ และลงมาด่าทอตน ตนจึงบอกให้ น.ส.สุธารัตน์ ไป สภ.เมืองสมุทรสงคราม ด้วยกัน แต่ น.ส.สุธารัตน์ฯ ไม่ไป และระหว่างนั้น น.ส.สุธารัตน์ ก็เร่งเครื่อง จยย.แล้วรถล้ม จากนั้น น.ส.สุธารัตน์ ก็ได้ทำร้ายร่างกายตนด้วยการจิกผมและผลักผู้แจ้งลงไปนอนกับพื้น และต่างคนต่างทำร้ายร่างกายกัน จากนั้นก็มีคนมาช่วยแยกออกจากกัน

อย่างไรก็ตามฟังต้องฟังทั้ง 2 ด้าน ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปพบ น.ส.สุธารัตน์ (ป้าอ้อย) คู่กรณี โดยชี้แจงว่า เมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่ตนขับขี่ รถจยย. โดยน.ส.จันทร์ทิพย์ คู่กรณีขับรถเก๋งหวังตบให้ตกข้างทาง จึงเกิดกระทบกระทั่งกัน ตนจึงกลับมาด่าในบ้าน และตนก็ปิดประตูบานออกไปตลาด กลับมาก็โดยตะปูวางไว้หน้าบ้านเป็นเรือใบ ตนจึงโมโห เมื่อวันเกิดเหตุตนขับรถพาแม่ไปหาหมอที่ รพ. รถเยอะตนจึงบีบแตร แต่ไม่รู้ว่าเป็นคู่กรณี ต่อมาเห็นคู่กรณียกเท้าโบกไปโบกมา และตะโกนด่าตน ตนจึงเรียกจอดและเกิดมีปากเสียง กัน และ กระชากมือตน ทำให้รถล้ม แล้วจึงเกิดชุลมุนกัน จะเกิดเรื่องราวดังกล่าว 

ตนยืนยันว่าถูกคู่กรณีเริ่มก่อน โดยดึงกุญแจและ กระชากมือตนก่อน ส่วนกรณีหาว่าตนไม่จ่ายค่าไฟ ตนยืนยันว่าจ่ายค่าน้ำค่าไฟทุกเดือนตรงเวลาตลอด จากเหตุการที่เกิดขึ้นก็คงต่างคนต่างอยู่