ผู้ปกครอง ร้องทุกข์ ตชด. จับเยาวชน 10 คน ขึ้นรถกระบะไปทำร้าย ตั้งข้อหามั่วสุม
ผู้ปกครอง ร้องทุกข์ ตำรวจ ตชด. คล้ายเมา จับเยาวชน 10 คน ขึ้นรถกระบะไปทำร้าย ตั้งข้อหามั่วสุม ก่อนปล่อยกลับ
24 พ.ย. 2567 น.ส.ศิรินันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี พาลูกชาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.อรรถพล ชุมคง สว.(สอบสวน) สภ.บางสะพาน หลังมีรถกระบะตำรวจ ค่าย ตชด.แห่งหนึ่ง เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน ก่อนจะสั่งให้เยาวชน 10 คน ที่กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่หน้าร้านจำหน่ายแบตเตอรี่ ขึ้นรถกระบะไปค่าย ตชด.ก่อนที่เด็กๆ จะถูกทำร้ายทุบตี แล้วปล่อยตัวกลับ เหตุเกิดเมื่อ 21 พ.ย. เวลาประมาณ 22.00 น.
น.ส.ศิรินันท์ เล่าว่า ตนเองทราบเรื่องจากยาย จึงรีบเดินทางไปค่าย ตชด. เพื่อสอบถามสาเหตุการจับเด็กๆ มาหน่วงเหนี่ยวกักขัง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ตนจึงเข้าไปรอด้านในห้อง และเห็นพฤติกรรมของ ตชด.รายหนึ่ง ตบหัวหลานอย่างแรงหลายครั้ง ระหว่างนั้นมี ตชด. นำตัวน้องกายออกมาจากห้อง ตนสังเกตเห็นว่าน้องมีอาการเดินตัวงอเหมือนคนปวดท้อง จึงถามไปว่าเป็นอะไร แต่ ตชด.รายนี้ตอบแทนอ้างว่า น่าจะกินน้ำกระท่อมมากไปหรือเปล่า พร้อมสั่งให้ทำประวัติการจับกุมของเด็กทั้งหมดแล้วปล่อยตัวกลับ
น.ส.ศิรินันท์ บอกอีกว่า หลังจากตนพาเด็กๆ ทั้งหมดกลับถึงบ้าน เด็ก ๆ เล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือกันอยู่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นมีชายใส่เสื้อแดงครึ่งดำ กางเกงพับขาสามส่วนสีดำ ซึ่งตนก็รู้จักว่าเป็น ตชด.สังกัดค่าย ตชด.147 แต่ไม่ทราบยศตำแหน่ง มีอาการคล้ายคนเมาเดินเข้ามาหน้าร้าน พร้อมกวักมือเรียกให้เด็กเดินมาหา แล้วกอดคอพูดคุย
ทราบภายหลังเป็นคนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางสะพาน ให้เข้ามาตรวจสอบเหตุมั่วสุมบริเวณดังกล่าว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นแล้วไม่พบอะไรจึงเดินทางกลับ แต่ ตชด.รายนี้อาจไม่พอใจ ที่ตำรวจไม่ดำเนินการอะไร จึงโทรสั่งลูกน้องในค่ายฯ ให้นำรถกระบะมานำตัวเยาวชนทั้งหมด อ้างมั่วสุมให้นำตัวไปที่ ค่าย ตชด.147 พร้อมสั่งตรวจฉี่เด็กๆ ทั้งหมด
ตนไม่เข้าใจว่า ตชด.กร่างรายนี้ใช้อำนาจใดสั่งควบคุมตัวเด็กๆ ไปกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ และยังทำร้ายร่างกายเด็กโดยการ ทุบ ตี ซ้อมเด็กจนระบมไปทั้งตัว ทั้งยังนำเด็กตรวจฉี่หาสารเสพติดโดยไม่มีผู้ปกครองคอยควบคุมดูแล ขณะที่ไม่พบสารเสพติดใด ซ้ำยังใช้กฎเหล็กกล่าวโทษแจ้งขอกล่าวหาเด็กๆ ว่ามั่วสุมเกินจำนวน ทำบันทึกประจำวันรายงานนายแล้วปล่อยตัวเด็กกลับ ซึ่งตนเห็นว่าการกระทำของ ตชด.รายนี้ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากการนำพาเด็กๆ ออกไปจากเคหะสถาน ควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเสียก่อน เนื่องจากทั้งหมดยังเป็นเยาวชน
ต่อมาผู้ปกครองและญาติ นำเรื่องราวเข้าไปปรึกษากับ พ.ต.อ.เอกราช หุ่นงาม ที่ปรึกษาสมาชิกวุฒิสภา จ.ประจวบฯ ให้ช่วยเนื่องจากผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการตำรวจ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อนจะนำเรื่องไปร้องให้สื่อช่วยติดตาม