ข่าว

ทีมทนาย ยื่นหลักทรัพย์ 1.2 ล้าน ขอติดกำไล EM อุทธรณ์ปล่อยชั่วคราว "สามารถ"

ทีมทนาย ยื่นหลักทรัพย์ 1.2 ล้าน ขอติดกำไล EM อุทธรณ์ปล่อยชั่วคราว "สามารถ"

29 พ.ย. 2567

ทีมทนาย เผยอาการล่าสุด "สามารถ" ต้องนั่งวีลแชร์ เตรียมอุทธรณ์คำร้องปล่อยชั่วคราว "สามารถ" ยื่นหลักทรัพย์ 1.2 ล้าน ขอติดกำไล EM

29 พ.ย. 2567 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความ เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ว่า ตนได้เข้าเยี่ยมตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และได้พบนายสามารถซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ต้องเข็นวิลแชร์มาพบ

ส่วนอาการนายสามารถ ยังคงเหมือนกับเมื่อวาน แต่วันนี้มีภาวะน้ำตาลตก หน้าซีด มีรอยช้ำบนเเขนจากการถูกเจาะรักษา และได้ทราบว่าแพทย์ต้องให้นายสามารถ คอยจิบน้ำหวานตลอด เพราะต้องป้องกันสภาวะช็อก แต่นายสามารถก็จิบได้เล็กน้อย ส่วนอาหารและน้ำ นายสามารถยังคงอดตามเจตนารมณ์อยู่

ทั้งนี้ ทางครอบครัวของนายสามารถ ได้พยายามบอกและขอให้นายสามารถกลับมากินอาหารให้ได้เหมือนเดิม เพราะยิ่งสุขภาพถดถอย ก็ยิ่งทำให้การทำงานการสู้คดียากยิ่งขึ้น และถ้าวิกฤติถึงเเก่ชีวิตก็ไม่เป็นผลดี และตนมองว่าการเรียกร้องความยุติธรรม ควรต้องมีชีวิตเหลืออยู่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่นายสามารถยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเอง ว่ายอมตายในคุกถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมย้ำว่าสิ่งที่นายสามารถทำ ไม่ได้เรียกร้องเพื่อตัวเอง แต่ยังทำเพื่อผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในสถานะเดียวกันอีกด้วย

ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวอีกว่า ทนายความอยากให้นายสามารถ ออกไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์ที่เคยรักษาไว้ อาทิ รพ.พญาไท 3 แต่ทางราชทัณฑ์มีความเห็นว่านายสามารถ ควรกลับไปรักษาภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ดังเดิม เพราะกลัวกระแสสื่อกดดัน ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีนั้น ตนต้องอธิบายว่า คดีฟอกเงินต้องไปดูที่ความผิดมูลฐาน หากความผิดมูลฐานชัดเจนก็สามารถดำเนินคดีฟอกเงินได้ แต่ในคดีดิไอคอนฯ ความผิดมูลฐานยังไม่มีการตัดสินเลย ดังนั้น จะแจ้งข้อหาการฟอกเงินไม่ได้

ส่วนที่ดีเอสไออ้างว่าเพราะเป็นความผิดแชร์ลูกโซ่นั้น ก็เป็นเพียงคำให้การหรือคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น อีกทั้งที่ดีเอสไอมีการคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่านายสามารถจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งตนยืนยันว่านายสามารถไม่ได้เป็นการยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวการเงิน เจ้าหน้าที่มีการอายัดบัญชีธนาคารไว้หมดแล้ว นายสามารถ ไม่สามารถโอนเงินเข้า-ออกได้

ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการอ้างกันว่านายสามารถจะหลบหนีนั้น ตามบันทึกการจับกุม ที่ สภ.แม่ยาว จ.เชียงราย มีการระบุว่า เป็นการมอบตัว แต่ดีเอสไอกลับไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาล ว่า นายสามารถมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งการไปจังหวัดเชียงรายของสามารถ มีพยานภายในวัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย มีอดีตข้าราชการ อดีตรอง ผบ.ตร. อดีต สส. ร่วมไปด้วย ที่พร้อมจะเป็นพยานให้
 

ทีมทนาย ยื่นหลักทรัพย์ 1.2 ล้าน ขอติดกำไล EM อุทธรณ์ปล่อยชั่วคราว \"สามารถ\"

อีกทั้งวัดห้วยปลากั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย หากนายสามารถจะหลบหนี ตนมองว่าจังหวัดเชียงรายคงไม่เหมาะสม เพราะมีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนอย่างแน่นหนา ซึ่งวันดังกล่าวนายสามารถได้คุยกับ ผอ.กองคดีฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า ทราบมีการออกหมายจับ และยังมีการระบุในคลิปเสียงว่าจะเดินทางไปมอบตัวอีกด้วย จึงไม่ใช่การมีพฤติกรรมหลบหนีแน่นอน

เมื่อถามว่าการเดินทางไปจังหวัดเชียงรายของนายสามารถ มีการแพลนล่วงหน้าไว้หรือไม่ และมีการจองตั๋วเครื่องบินอย่างไร ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ตนทราบล่วงหน้าประมาณ 3-4 วัน เพราะถูกเชิญไปด้วย แต่ไม่ได้ไปเพราะติดธุระ และวันที่ที่นายสามารถเดินทางก็คือช่วงเช้าของวันที่ 25 พ.ย.

เมื่อถามว่าการไปทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย มีใบอนุโมทนาบุญด้วยหรือไม่ ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ประเด็นนี้ต้องดูเรื่องของเส้นเงิน แต่สิ่งที่สังคมกำลังพูดถึงคือเรื่องของการหลบหนี ซึ่งหากวันนั้นมีประชาชนหรือพระเห็นนายสามารถ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่านายสามารถ ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี และนายสามารถก็เคยเดินทางมาทำบุญที่วัดนี้แล้ว ส่วนเมื่อถามว่านายสามารถเคยมีการโอนเงินทำบุญกับวัดห้วยปลากั้งมาก่อนหรือไม่ ตนเองตอบไม่ได้ และต้องไปเทียบช่วงเวลาการโอนเงินก่อน

ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ส่วนประเด็นเรื่องเอกสารการกู้ยืมเงินและการทำบุญระหว่างมารดาของนายสามารถ และบอสพอล ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสตรวจพบภายในบ้านพักของนายสามารถ ระบุวันที่ 12 พ.ย. 2567 ว่านายสามารถและบอสพอล มีการคืนเงินที่ยืมกันชดใช้กันหมดแล้วนั้น ประเด็นนี้ตนมองว่าเอกสารดังกล่าวเป็นการที่ทางบอสพอลให้เซ็นเพื่อไม่ให้เป็นการฟ้องร้องทางแพ่งต่อกันระหว่างบอสพอลและนายสามารถ ส่วนประเด็นดังกล่าวทางดีเอสไอจะนำไปเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน
 

ทีมทนาย ยื่นหลักทรัพย์ 1.2 ล้าน ขอติดกำไล EM อุทธรณ์ปล่อยชั่วคราว \"สามารถ\"

เมื่อถามว่าการกู้ยืมเงิน-การทำบุญร่วมกันระหว่างแม่นายสามารถและบอสพอล เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2564 แต่ทำไมถึงมามีเอกสารจัดทำเมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ตนเองไม่ทราบว่าทำไม แต่ในกรณีแบบนี้ก็มีเยอะในกลุ่มเจ้าหนี้ลูกหนี้ ซึ่งหลายคนก็อาจจะมองและคิดแบบนั้น แต่ส่วนตนมองว่าเป็นการตัดอำนาจเรื่องของการฟ้องแพ่งระหว่างกัน

อีกทั้งช่วงปี 2564 นายสามารถไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมือง เพราะมีราชกิจจานุเบกษา ให้นายสามารถออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2564 ส่วนที่อยู่ในสังกัดพรรคการเมืองนั้น ไม่ใช่ข้าราชการทางการเมือง แต่เป็นเพียงสมาชิกพรรค

ทั้งนี้ ร.อ.ธีรศานต์ ยังบอกอีกว่า คดีฟอกเงิน มีเส้นเงินอยู่ 2.5 ล้านบาท แต่ความเสียหายที่ดีเอสไอตั้งไว้คือ 2,900 ล้านบาท ซึ่งหากดูปริมาณความเสียหายกับยอดเงินของฝั่งนายสามารถ เทียบกันไม่ได้เลย เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายฟอกเงิน คือ การรวบรวมเงินคืนผู้เสียหาย จึงมองว่าการทำคดีนี้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะมาวิ่งตามเงินเล็ก ๆ ทั้งที่เงินใหญ่ ๆ ก็มี ถึงเวลาหากคดีจบตัดสินจริง ผู้เสียหายก็ไม่รับการเยียวยา

อย่างไรก็ตามภายในวันนี้ จะมีทีมทนายอีกทีมไปที่ศาลอาญา รัชดา เพื่อยื่นคำร้องอุทธรณ์ขอปล่อยชั่วคราวนายสามารถ ซึ่งหลักฐานที่จะนำไปยื่น คือ หลักฐานที่นายสามารถมีการคุยโทรศัพท์กับ ผอ.กองคดีฟอกเงินทางอาญา (ดีเอสไอ) เป็นคลิปเสียงยืนยันไม่ได้หลบหนีและจะไปมอบตัว และอีกประการคือประวัติการรักษา ส่วนหลักทรัพย์ในครั้งนี้ที่ยื่นจะใช้เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 1.2 ล้านบาท พร้อมขอศาลติดกำไล EM

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ได้ยื่นอุทธรณ์ คำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลอาญารับคำร้องอุทธรณ์ไว้ และเห็นควรส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป ซึ่งคาดว่าศาลอุทธรณ์น่าจะใช้เวลาพิจารณา 2-3 วัน จึงจะมีคำสั่งส่งมาให้ศาลอาญาได้