ข่าว

สะเทือนใจ หัวอกพ่อ สูญเสีย 3 ชีวิต เผยเศร้า จะอยู่อย่างไร ไม่เหลือใครสักคน

สะเทือนใจ หัวอกพ่อ สูญเสีย 3 ชีวิต เผยเศร้า จะอยู่อย่างไร ไม่เหลือใครสักคน

29 พ.ย. 2567

สะเทือนใจ หัวอกพ่อ สูญเสีย 3 ชีวิต เผยเศร้า จะอยู่อย่างไร ไม่เหลือใครสักคน ฉะ สาวบีเอ็ม คึกคะนอง ไร้ความรับผิดชอบ

จากกรณี น.ส.จิรันธนิน (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ยืมเก๋ง BMW ของเพื่อน ขับไปประสบอุบัติเหตุพุ่งชน จยย. 3 แม่ลูก เสียชีวิต บริเวณทางหลวงชนบทสาย แยกโค้ก-ทุ่งเบี้ย หมู่ 1 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ก่อนทิ้งรถหลบหนี หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์แจ้งพ่อของเพื่อน ให้พาเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

29 พ.ย. 2567 เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บ้านผู้เสียชีวิต หมู่ 3 ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดอภิธรรมศพ ซึ่งครอบครัวได้ตั้งหีบศพเรียงกัน 3 ศพ หีบศพแม่ตั้งอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายเป็นลูกชาย และด้ายขวาเป็นลูกสาว มีหรีดจากหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องถิ่น ญาติสนิททั่วไป รวมไปถึงของ น.ส.จิรันธนิน ส่งมาแสดงความอาลัย
 

สะเทือนใจ หัวอกพ่อ สูญเสีย 3 ชีวิต เผยเศร้า จะอยู่อย่างไร ไม่เหลือใครสักคน

นายประกฤษณ์ (สงวนนามสกุล) บิดาของนายกฤตเมธ อายุ 16 ปี ด.ญ.บุณยานุช อายุ 14 ปี และยังเป็นสามีของ นางเย็นจิตร อายุ 52 ปี เปิดใจว่า ตอนนี้ตนยังมีความสงสัยเกี่ยวกับคนขับ ใช่ตัวจริงหรือไม่ เนื่องจากตนไม่ได้รับรู้ข้อมูลอะไรเลย เคยขอดูหลักฐานกล้องวงจรปิดจากตำรวจ ก็บอกให้ดูไม่ได้ แต่กลับเห็นภาพคลิปจากหน้ารถเก๋ง BMW ที่มีเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นช่วงคลิปสั้นๆ ตอนรถเก๋งขับชนรถจักรยานยนต์เท่านั้น

ช่วงที่รถเก๋งชนแล้วเสียหลักไปจอดอยู่ไหล่ทาง ตนคิดว่าตอนนั้นกล้องหน้ารถหน้าจะจับภาพคนขับตัวจริงไว้ได้ เพราะมีชาวบ้านเห็น และบอกว่าคนขับเป็นผู้หญิงได้ลงมาจากรถ และเดินตามหาแมว ก่อนอุ้มแมวแล้วเดินหลบหนีไปในความมืด

นายประกฤษณ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาคือว่าต่อไปนี้ตนจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะต้องอยู่เพียงคนเดียว ครอบครัวตนไม่มีลูกเมียเหลืออยู่อีกแล้ว มีแต่คุณแม่อายุมากแล้วที่นอนป่วยติดเตียงใครจะดูแล เพราะตนก็ต้องไปทำงานอยู่ที่ศูนย์ไปษณีย์ จะเอาเงินที่ไหนมาจ้างคนดูแลแม่ ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ เกี่ยวกับแม่
 

สะเทือนใจ หัวอกพ่อ สูญเสีย 3 ชีวิต เผยเศร้า จะอยู่อย่างไร ไม่เหลือใครสักคน

ตนอยากจะถามถึงคนขับรถเก๋งว่า คุณเป็นคนอย่างไร ทำไมถึงได้ขับรถความเร็วสูงถึง 207 กม./ชม. และทราบว่าขณะขับรถความเร็วสูง ยังถ่ายรูปหน้าปัดไมล์ด้วย แล้วจับพวงมาลัยเพียงมือเดียว ทั้งนี้ อยากให้กระบวนการทางกฎหมายเอาจริงกับคนแบบนี้ เพราะไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเลย

ด้าน นายสุวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ผู้เป็นลุงเขย กล่าวว่า ตอนนี้ตนเป็นห่วงนายประกฤษณ์ มากเพราะคนในครอบครัวตายหมด ไม่เหลืออะไรไว้ให้อีกเลย นอกจากความสูญเสียและความเศร้าโศก ซึ่งจะทำให้เป็นโรคซึมเศร้า ตนจึงต้องให้พี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อนก่อนและคอยช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยติดเตียงไปก่อน ส่วนคนขับนั้นตนเห็นว่ามีพฤติกรรมที่คึกคะนองมาก เพราะขับรถเร็วมากกว่า 200 กม./ชม.

อย่างไรก็ตามสำหรับ น.ส.จิรันธนิน หลังศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มาร่วมในงานศพผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด