ดราม่าหนัก! ควาญช้าง พาช้างออกงาน 33 เชือก โดนเจ้าภาพเบี้ยวค่าจ้าง 6 แสน
ควญช้าง เครียดหนัก พาช้างออกงานวัฒนธรรม 33 เชือก ถูกเจ้าภาพเบี้ยวเงินค้าจ้าง 6 แสน วอนจ่ายที่เหลือ ไม่อยากถูกตราหน้า โกงเงิน
1 ธ.ค. 2567 จากกรณี "เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์" ได้แชร์คลิปดร่าม่าหลังจากที่มีกระแสควาญช้างนำช้าง 33 เชือกไปรับงาน แล้วไม่ได้ค่าจ้างเป็นเงิน 6 แสนบาท ซึ่งได้โพสต์ข้อความระบุไปว่า "พี่น้องกลุ่มช้างขอความช่วยเหลือจากเพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์ให้ช่วยแชร์ พี่น้องกลุ่มช้างขอความช่วยเหลือจากเพจข่าวท้องถิ่นจากเพชรบูรณ์ ให้ช่วยเผยแพร่"
หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ลงเพจข่าว และอีกหลายแพลตฟอร์มรวมไปถึงต้นฉบับจากช่อง Youtube แฟมิลี่ ศรีทัพไทย คอมเมนต์ชาวเน็ตต่างวิพากวิจารณ์อย่างร้อนระอุ จากคลิปดังกล่าวเห็นว่าเจ้าของ Youtube ช่อง แฟมิลี่ ศรีทัพไทย ซึ่งเป็นหัวหน้าควาญช้างผู้ติดต่อรับงานให้ไปรับงาน "งานวัฒนธรรมกวนอูนานาชาติ" ศาลเจ้าพ่อกวนอู ที่ตำบลนาเฉลียง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 67 ต่างนำทีมควาญช้างที่ไปแสดงในวันนั้นออกมาไลฟ์สดเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจากที่ได้ค่าจ้างไม่ครบตามที่ตกลง
จากกรณีดังกล่าวทำให้เกิดกระแสไวรัล คนที่เห้นคลิปต่างเกิดความเห็นใจควาญช้างและคอมเมนต์สนั่น บ้างก็แนะนำให้ไปแจ้งความ บ้างก็ให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุด หลังจากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปหาทางด้านเจ้าของช่อง Youtube "แฟมิลี่ ศรีทับไทย" เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายนิรุต ศาลางาม อายุ 41 ปี "ควาญช้างที่ติดต่อรับงาน" หรือเจ้าของช่อง Youtube แฟมิลี่ ศรีทับไทย ผู้ลงคลิป ได้เล่า ถึงข้อเท็จจริงให้ทางผู้สื่อข่าวฟังและกำลังรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สัมภาษณ์นายนิรุต ศาลางาม อายุ 41 ปี (หัวหน้าควาญช้างคนที่รับงาน) เล่าว่า
ที่ตนและกลุ่มควาญช้างไลฟ์สดขอความเป็นธรรมโดนเบี้ยวค้าจ้างก็เพราะว่า เมื่อเดือน ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา มีคนติดต่อมาทางเบอร์โทรศัพท์ และได้พูดคุยสอบถามเกี่ยวกับการรับงานแสดงช้าง โดยให้ไปทำการแห่งานวัฒนธรรมศาลเจ้าพ่อกวนอู ที่อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันที่ 31 ตุลาคม -1 พฤศจิกายน 67 โดยขบวนแห่วันที่ 31 ตุลาคม แห่จากศาลเจ้าพ่อกวนอูไปศาลหลักเมือง และวันที่ 1 พฤศจิกายน แห่ตักบาตรบนหลังช้าง
ต่อมาเวลา 12.00 น. หลังจากที่งานได้เสร็จสิ้น ตนจึงได้ติดต่อเข้าไปหาคนที่ว่าจ้างเพื่อจะขอเบิกเงินค่าจ้าง กลับได้คำตอบมาว่า ตอนนี้ยังไม่สะดวกโอน จนจึงตอบไปว่า "ยังไงก็คงต้องขอเบิกก่อน" คนจ้างจึงตอบมาว่าถ้ายังงั้นขอโอนให้ก่อน 10,000 บาท แล้วกัน ที่เหลือเสร็จงานก็จะโอนให้ ตนจึงบอกไปว่ายังไงก็แล้วแต่ต้องโอนให้พวกผมนะพี่ เพราะไม่มีค่ารถ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับสุรินทร์ ตนจึงไปบอกในกลุ่มควาญช้างว่า "ได้เงินแน่นอนเดี๋ยวเสร็จงานเขาจะโอนเงินให้พวกเรา" และกลุ่มตนก็พากันเดินทางกลับสุรินทร์
ระหว่างเดินทางกลับตนก็ยังพูดคุยสอบถามกับทางคนจ้างเป้นระยะแต่ก็ไม่มีการตอบกลับมา และเขาก็เลื่อนไปเรื่อยๆผลัดวันประกันพรุ่ง ตอนนี้จำนวนเงินที่ได้มาจากคนจ้างประมาณ 270,000 บาท ซึ่งยอดทั้งหมดรวมทั่งสิ้น 8 แสนกว่าบาท และตอนนี้ค้างอยู่ประมาณ หกแสนบาท ซึ่งจำนวนเงินที่ได้มาตนก็นำไปจ่ายกลุ่มควาญช้างที่ไปรับงานด้วยกัน หักค่าใช้จ่ายแล้วแทบจะไม่เหลือแถมยังต้องกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่าเดินทางกลับ เพราะค่ารถบรรทุกช้างไปแสดงตกไปคันละเป็นหมื่น แต่นี่ช้าง 33 เชือก
ตอนนี้ตนรู้สึกเครียดและกดดันไปหมด กลัวเพื่อนควาญช้างด้วยกันที่ไปรับงานมองไม่ดีว่าตนกินเงิน เครียดถึงขั้นเป็นไมเกรนเข้าโรงพยาบาล และอยากวิงวอนให้เจ้าของงานรีบนำเงินมาจ่ายจะได้นำเงินไปให้กับกลุ่มควาญช้างที่ไปรับงานด้วยกัน ถึงอย่างไรตอนนี้ตนได้เข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ และจะดำเนินการให้ถึงที่สุด