ข่าว

ดีเดย์ 22 ม.ค. 68 สมรสเท่าเทียม วันแรก เช็กเงื่อนไข-คุณสมบัติ ของผู้จดทะเบียน

ดีเดย์ 22 ม.ค. 68 สมรสเท่าเทียม วันแรก เช็กเงื่อนไข-คุณสมบัติ ของผู้จดทะเบียน

03 ธ.ค. 2567

สมรสเท่าเทียม เตรียม เปิดให้ บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม 22 มกราคม 2568 เช็กเงื่อนไข-คุณสมบัติ ของผู้จดทะเบียน

สมรสเท่าเทียม เปิดให้ บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมที่จะมีขึ้นวันแรกในวันที่ 22 มกราคม 2568 ภายหลังจากที่ นฤมิตไพรด์ พร้อมคณะทำงานสมรสเท่าเทียมภาคประชาชน ภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันผลักดันพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม

 

สำหรับการจดทะเบียนสมรสวันแรกในประเทศไทย และเฉลิมฉลองความสำเร็จเพื่อความเท่าเทียมตามกฎหมาย เป็นการยืนยันความก้าวหน้าทางสิทธิและความเท่าเทียมที่ภาคประชาชนและทุกภาคส่วนได้ร่วมกันขับเคลื่อนตลอดระยะเวลาหลายปี ซึ่งกรุงเทพมหานครมีความพร้อมในการที่จะให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมที่จะมีขึ้นวันแรกในวันที่ 22 มกราคม 2568

 

การจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมที่เกิดขึ้นเป็นการโอบกอดความหลากหลายในเรื่องแรก ๆ ที่เกิดขึ้น แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องผลักดัน รวมไปถึงกฎหมายลูกต่าง ๆ ด้วย อยากให้กำลังใจทุกคนที่กำลังต่อสู้เรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียม เราจะทำให้สำเร็จไปด้วยกัน

สำหรับกฎหมาย "สมรสเท่าเทียม" ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันแรกในวันพุธที่ 22 ม.ค. 68 โดยของคุณสมบัติของผู้จดทะเบียนสมรส มีดังนี้

 

1. บุคคลทั้งสองจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ กรณีผู้เยาว์ต้องนำบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอมด้วย

 

2. กรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากศาล

 

3. ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ

 

4. ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา

 

5. ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น

 

6. ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้

 

7. หญิงที่ชายผู้เป็นคู่สมรสตาย หรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่น จะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อสิ้นสุดการสมรสไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่

 

  • คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น
  • ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้
  • สมรสกับคู่สมรสเดิม
  • บุคคลที่มีอายุไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ ศาลอาจอนุญาตให้สมรสได้
  • มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
     

สำหรับเอกสารที่ใช้ จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม คือบัตรประจำตัวประชาชน

 

สถานที่รับจดทะเบียนสมรส คือสำนักทะเบียนอำเภอ สำนักทะเบียนเขต และสถานทูต/กงสุลไทยในต่างประเทศทุกแห่ง โดยไม่คำนึงถึงภูมิลำเนาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง