หนุ่มปวดท้องหนัก ตรวจเจอ เลือดสีขาว หมอเตือน สาเหตุจากอาหาร อันตรายถึงชีวิต
ภัยเงียบจากเมนูโปรด! หนุ่มวัย 30 ปวดท้องหนัก ไปหาหมอตรวจเลือด เจอเป็นสีขาว รู้สาเหตุยิ่งอึ้ง มาจากอาหารที่กินติดกัน 7 วัน
7 ธ.ค. 2567 สื่อต่างประเทศรายงานเรื่องราวของ ชายวัย 30 จาก มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ซึ่งป่วยด้วยอาการ "ปวดท้องรุนแรง" หลังจากกิน "แฮมเบอร์เกอร์" ติดต่อกันเป็นเวลากว่า 7 วัน โดยอาการของเขาแย่ลงเรื่อยๆ ก่อนเข้ารับการรักษา และพบว่าเขามีอาการ "ตับอ่อนอักเสบจากไขมันในเลือดสูง" อีกทั้งเลือดที่ถูกเจาะออกมานั้นยังมีสีขาวขุ่นคล้ายกับ "น้ำนม"
ตามรายงานระบุว่า หนุ่มชาวจีนรายนี้ ชื่นชอบการกินอาหาร และมักนัดเพื่อนออกไปกินอาหารเป็นประจำ โดยชอบอาหารที่มีรสชาติเข้มข้น เช่น หม้อไฟและบาร์บีคิว "บางครั้งเมื่อทำงานล่วงเวลาในตอนกลางคืน ผมก็มักจะสั่งไก่ทอดหรือแฮมเบอร์เกอร์มาเป็นอาหารมื้อดึก"
แพทย์ฉุกเฉิน หวงเหยียนจิง ระบุว่า อาการของผู้ป่วยรายนี้ อยู่ในขั้นวิกฤตจึงถูกส่งตัวเข้าหอผู้ป่วยวิกฤตทันที ผู้ป่วยเตียงข้าง ๆ ของเขาก็เกิดภาวะ "ตับอ่อนอักเสบจากไขมันในเลือดสูง" เช่นกัน หลังจากกินข้าวหน้าขาหมูติดต่อกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์
ดร.หวงอธิบายว่า "ตับอ่อนอักเสบจากไขมันในเลือดสูง" เป็นรูปแบบหนึ่งของตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน เมื่อระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเกินไปจนเอนไซม์ไลเปสย่อยไขมัน ทำให้เกิดกรดไขมันอิสระที่ทำลายตับอ่อนและเกิดการอักเสบ "สาเหตุหลักมาจากอาหารการกิน เช่นเดียวกับเสี่ยวตงที่มักกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและขาดการออกกำลังกาย การกินอาหารที่มีไขมันสูงในปริมาณมากต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มสูงจนกระตุ้นโรคนี้"
ดร.หวงยังเตือนว่า "นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ โรคอ้วน เบาหวานที่ควบคุมไม่ดี และผลข้างเคียงของยาบางชนิดก็อาจเป็นสาเหตุของโรคตับอ่อนอักเสบจากไขมันในเลือดสูงได้เช่นกัน ดังนั้นอย่าทนกับอาการปวดท้องเฉียบพลัน เพราะหากอาการรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้"
ข้อมูลจาก : ETTODAY