ประวัติ "สันติ ลุนเผ่" ตำนานนักร้องชาย เสียทรงพลัง เพลงปลุกใจระดับชาติ
วงการเพลงไทยอาลัย "สันติ ลุนเผ่" ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง สิ้นนักร้องชายระดับตำนาน เจ้าของเสียทรงพลัง เพลงปลุกใจระดับชาติ
ร.ต.สันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล-ขับร้อง) ประจำปี 2558 ถึงแก่กรรมในวัย 88 ปี
เรือตรี สันติ ลุนเผ่ นามเดิม ไพศาล ลุนเผ่ เป็นนักร้องชายชาวไทย มีชื่อเสียงในฐานะเป็นนักร้องประจำคณะดุริยางค์แห่งกองทัพไทย และมีน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในผลงานด้านเพลงปลุกใจ, เพลงคลาสสิก และเพลงประกอบภาพยนตร์ โดยเฉพาะ เพลง หนักแผ่นดิน, ความฝันอันสูงสุด, ทหารพระนเรศวร, ดุจบิดามารดร, เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย, แด่ทหารหาญในสมรภูมิ และ มาร์ชทหารไทย
สันติ ได้บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกโดยวงดนตรีวายุบุตรคือเพลง "คมแสนคม" ผลงานของ เชาว์ แคล่วคล่อง เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเรื่อง "คมแสนคม" ในปี พ.ศ. 2507
สันติ ลุนเผ่ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล - ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2558
ประวัติ สันติ ลุนเผ่
เรือตรี สันติ ลุนเผ่ เกิดที่บ้านในย่านวัดราชบพิธ จังหวัดพระนคร เป็นบุตรของหม่องลุนเผ่ ซึ่งเป็นนักร้องละครชาวพม่า ที่อพยพมาอยู่ ณ จังหวัดลำปาง แล้วนำชื่อ ลุนเผ่ มาใช้เป็นชื่อสกุล ก่อนย้ายรกรากมายังกรุงเทพมหานคร และได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ (อสช 15713) จนสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาในปี พ.ศ. 2496 และศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรือตรี สันติ ชื่นชอบดนตรีคลาสสิกมาตั้งแต่วัยเยาว์บิดาซึ่งชอบฟังคารูโซเป็นผู้สอนร้องเพลงให้ นอกจากนี้ขณะเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เป็นลูกศิษย์ของครู สังข์ อสัตถวาสี ครูดนตรีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมวงดนตรีวายุบุตร ของ เชาว์ แคล่วคล่อง และสอบชิงทุนยูธ ลีดเดอร์ชิป (Youth Leadership) ไปศึกษาด้านการเรียบเรียงเสียงประสานที่ประเทศอิสราเอลเป็นผลสำเร็จ จากนั้นจึงกลับมาร่วมวงดนตรีวายุบุตรในตำแหน่งนักกีตาร์ โดยเล่นประจำที่โรงแรมเอราวัณ
วงการเพลง
เรือตรี สันติ ได้รับการฝึกฝนดนตรีคลาสสิกจากการร้องเพลงในโบสถ์คริสต์ ฝึกสอนโดยแมรี คลิฟฟอร์ด เจฟฟรีย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน จากการฝากฝังโดยหม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา และได้ร่วมเป็นนักร้องเสียงเทเนอร์ในวงดนตรี The Bangkok Combined Choir (BBC) เป็นคนไทยเพียงคนเดียวในวง
ช่วงสงครามเวียดนาม เรือตรี สันติ ได้สอบหลักสูตร ทรีนิตี้ คอรัส ออฟ ลอนดอน ซึ่งเปิดสอบที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบเกรด 8 เทียบเท่าอนุปริญญา ต่อมาได้ร่วมวงดนตรีโดมิงโกกับนักดนตรีชาวฟิลิปปินส์ ตระเวนเล่นดนตรีตามค่ายทหารอเมริกัน ต่อมาได้ตั้งวงดนตรีร่วมกับพันจ่าเอกธวัช ไพโรจน์ ประจำที่ภัตตาคารสวนกุหลาบ ซอยอารีย์สัมพันธ์
ในปี พ.ศ. 2518 เรือตรี สันติ มีโอกาสได้ขับร้องเพลงคารูโซถวายต่อหน้าพระพักตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานเลี้ยงพระราชทานพระกะยาหารเหล่ากาชาดนานาชาติ ร่วมกับวงดุริยางค์กองทัพเรือ โปรดเกล้าฯ ให้นายไพศาลเข้าเฝ้า และรับสั่งให้ร่วมขับร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงรักชาติ (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดให้เรียกเพลงปลุกใจ ว่า "เพลงรักชาติ" เนื่องจากคำว่า "เพลงปลุกใจ" สื่อความหมายไปในด้านความรุนแรง)[ต้องการอ้างอิง] ในครั้งนั้นพระพันปีหลวงทรงรับสั่งเรียกชื่อ "สันติ ลุนเผ่" ชื่อ "สันติ" เป็นชื่อในการร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียง เขาจึงใช้ชื่อ "สันติ ลุนเผ่" เป็นชื่อจริงมาตั้งแต่นั้นเพื่อความเป็นศิริมงคล
เรือตรี สันติ มีชื่อเสียงจากการขับร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ เพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงรักชาติ เป็นจำนวนมากเช่น ความฝันอันสูงสุด ทหารพระนเรศวร ดุจบิดามารดร เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย แด่ทหารหาญในสมรภูมิ มาร์ชทหารไทย หนักแผ่นดิน ถามคนไทย ได้เข้ารับราชการทหารเรือ ประจำวงดุริยางค์ทหารเรือ มีหน้าที่สอนขับร้อง และเรียบเรียงเสียงประสาน จนกระทั่งนาวาเอกสำเร็จ นิยมเดช อดีตผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ เสียชีวิต จึงลาออกจากราชการ
ช่วงบั้นปลายชีวิต เรือตรี สันติ ประกอบอาชีพร้องเพลง สอนขับร้องดนตรีคลาสสิก และเป็นที่ปรึกษาคณบดี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ถึงแก่กรรม
เรือตรี สันติ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลาประมาณ 01:01 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สิริอายุ 88 ปี
ข้อมูลจาก : wikipedia