เปิดผลชันสูตร หนุ่มดับคาเตียง รพ. หน้าปูดบวม หลังไปรักษาอาการติดเหล้า | คมชัดลึก

10 ธ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายทองสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี บิดาของนายสะอาด (สงวนนามสกุล) ว่าลูกชายเข้ารับการรักษาอาการติดเหล้า แต่กลับเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จึงนำร่างส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยผลชันสูตรสาเหตุของการตาย สันนิษฐาน ว่าสมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกของแข็ง ทำให้ทางครอบครัวมั่นใจว่า นายสะอาด ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต

นายทองสุข เล่าว่า สาเหตุที่พาลูกชายเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากลูกชายมีอาการช็อก สั่น เพราะขาดเหล้า จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2567 รักษาอยู่เป็นเวลา 2 คืน หลังจากนั้นวันที่ 6 ธ.ค. เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ย้ายลูกชายไปรักษาอีกตึกหนึ่ง เนื่องจากพยาบาลแจ้งว่าลูกชายมีอาการพูดคุยไม่รู้เรื่อง เมื่อไปถึงตึก มีแพทย์แจ้งให้ไปรอข้างนอก โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลจะจัดการกันเอง ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ 4 คน ชาย 2 หญิง 2 อยู่ด้านใน

ต่อมาตนได้ยินเสียงร้องของลูกชาย และพบว่าลูกชายถูกรุมทำร้าย แต่ไม่ทราบว่าด้วยวิธีใด หลังเกิดเหตุตนไม่ได้ถามเจ้าหน้าที่ แต่สังเกตเห็นหน้าลูกชายปูดบวม คิ้วแตก หน้าผาก โหนกแก้ม ปากบวม ลูกชายร้องด้วยความเจ็บปวด แต่พ่อไม่ได้ทักท้วงอะไร คิดว่าจะไม่รุนแรงขนาดนี้ กระทั่ง 7 ธ.ค. ลูกชายเสียชีวิต

ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าลูกชายถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตน อีกทั้งลูกชายตนเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังเกิดเหตุยังไม่มีการติดต่อจากทางโรงพยาบาลแต่อย่างใด

ด้าน นางมลิวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ป้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มีข้อผิดสังเกตหลายอย่าง ทั้งเรื่องบาดแผลหลายๆ จุด และการให้รีบเอาศพออกแบบเร่งด่วน ตนเห็นว่ามีบาดแผลหลายแห่ง จึงขอให้มีการพิสูจน์ศพ ครั้งแรกนำร่างไปทำการชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ผลการชันสูตรเครื่องสแกนสมอง ไม่พบอาการผิดปกติ จึงได้ประสานขอนำร่างไปชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ผลชันสูตรออกมาว่า เสียชีวิตจากสมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกของแข็ง
 

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงกับ นายแพทย์ลักษณะเลิศ วรรณภาสนี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันทรลักษ์ ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลกันทรลักษ์ จะลงพื้นที่บ้านของผู้เสียชีวิตเพื่อพูดคุยกับทางญาติ และได้มอบสิ่งของเยียวยาจิตใจ ส่วนรายละเอียดเรื่องของสาเหตุของการเสียชีวิตนั้น จะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และอาจจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยผู้บริหารระดับสูง

ซึ่งตอนนี้ก็มีการหาข้อมูลในรอบด้าน แต่ในส่วนของที่สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลออกไป เป็นข้อเท็จจริงส่วนหนึ่ง ที่เราต้องหาข้อมูลในเรื่องนี้ แต่หากจะถามว่ามีการทำร้ายร่างกายกันไหม ต้องบอกว่าเป็นความชุลมุนมากกว่า แต่ทำร้ายหรือไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป