ข่าว

"สมศักดิ์" เรียกตัว "ผอ.รพ.กันทรลักษ์" เข้าส่วนกลาง หารือเรื่องที่เกิดขึ้น

"สมศักดิ์" เรียกตัว "ผอ.รพ.กันทรลักษ์" เข้าส่วนกลาง หารือเรื่องที่เกิดขึ้น

11 ธ.ค. 2567

"สมศักดิ์" เรียกตัว "ผอ.รพ.กันทรลักษ์" เข้าส่วนกลาง ยอมรับ เจ้าหน้าที่ 2 คน ขาดทักษะดูแลผู้ป่วยจิตเวช แต่มาเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ เพราะขาดแคลนบุคคลากร

11 ธ.ค. 2567 ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีหนุ่มไปรักษาอาการรักษาตัวโรคพิษสุราเรื้อรัง ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แล้วเสียชีวิต ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างสุดซึ้ง ในฐานะที่เป็นผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และอีกส่วนหนึ่งในฐานะคนที่มีลูก มีความรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่รุนแรง และเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยได้เลย

สำหรับในแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขต้องบอกว่า จะยอมให้เรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ซึ่งตนได้วางแนวทางในการแก้ไข และสืบสวนกระบวนความว่า เรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้นจากอะไรและเราจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งต้องเรียนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากเรื่องโรค เกี่ยวกับจิตเวช ที่เกิดขึ้นเยอะ ในประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องของติดเหล้าตัวเลขที่มีทั้งหมดในประเทศไทย ประมาณ 79,000 คน และในส่วนที่เข้าบำบัดรักษา 3,340 คน ในขณะนี้ที่ดำเนินการอยู่ โรคประเภทนี้ที่เกิดขึ้นมาอย่างมาก ส่วนหนึ่งที่เป็นปัญหาเราได้เพิ่มบุคลากรที่เข้ามาดูแล ผู้ป่วยในลักษณะนี้อย่างรวดเร็ว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนดังกล่าว เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย หรือเป็นพนักงานผู้ช่วยเหลือคนไข้ ซึ่งขาดความรู้ ความสามารถเฉพาะทาง เพราะเนื่องจากมีบุคลากรน้อย และจากการสืบสวนในเบื้องต้นแล้ว ทั้ง 2 คน เป็นพนักงานช่วยเหลือคนไข้ ซึ่งไม่มีทักษะในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชในด้านนี้โดยตรง พร้อมยืนยันว่า ตนไม่ได้มาแก้ตัวให้เจ้าหน้าที่ เพราะขณะนี้ได้ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว และสั่งการให้ ผอ.รพ.กันทรลักษ์ มาที่ส่วนกลาง

โดยวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.67) ที่กระทรวงสาธารณสุข สั่งให้ดำเนินการประชุม และจัดสัมมนา เพื่ออบรมให้ความรู้บุคลากร ทั้งผู้บริหาร และผู้ช่วยเหลือต่างๆ เกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมรุนแรงโดยด่วน ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เวลา 08.30 น.

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ความรุนแรงเป็นการแสดงออก ถึงการขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ และคำว่าพฤติกรรมรุนแรง เริ่มต้นจากการใช้คำพูดเอาหัวโขกพื้น หรือรุนแรงต่อผู้อื่น เช่น การชกต่อยตบตีโดยใช้อาวุธต่างๆ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และรุนแรงต่อสิ่งของ เหล่านี้หากเราได้เจ้าหน้าที่หรือพนักงานไปดำเนินการโดยที่ไม่มีความรู้ทักษะโดยตรงแล้วก็จะปฏิบัติไม่ถูก

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า เป็นสิ่งที่เราไม่พร้อมด้วยบุคลากร ซึ่งในขณะนี้ต้องเรียนว่าบุคลากรในส่วนนี้ยังขาดแคลน แต่เราไม่สามารถที่จะไปเอ่ยอ้างว่าขาดแคลน หากเป็นเหตุการณ์นี้จะมีคนเสียชีวิตอีก เราจะอ้างอย่างนั้นไม่ได้

​​​​​​อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน ได้ถูกสั่งให้พักราชการ เหมือนลักษณะให้ออกราชการ ส่วนพยาบาลอีก 2 คนได้สอบสวนข้อเท็จจริง และตัวผู้อำนวยการก็เรียกตัวเข้ามาส่วนกลาง เพื่อมาหารือ 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ