ชัชชาติ สั่งระงับรื้อถอน หลังแท่งคอนกรีตถ่วงเครน ร่วงกลางถนนพระราม 4
"ชัชชาติ" สั่งระงับรื้อถอน หลังแท่งคอนกรีตถ่วงเครน ร่วงกลางถนนพระราม 4 ด้าน นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ คาดการณ์ 2 สาเหตุ
15 ธ.ค. 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย สำนักการโยธา สำนักงานเขต และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามกรณีเกิดเหตุวัสดุจากการรื้อถอนอาคารศรีเฟื่องฟุ้ง เขตบางรัก ร่วงหล่นลงถนนพระราม 4 เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค. 67)
นายชัชชาติ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ว่า อาคารศรีเฟื่องฟุ้งมีความสูง 12 ชั้น รวมชั้นลอยด้วยเป็น 14 ชั้น เป็นอาคารขนาดใหญ่ซึ่งได้รับการอนุญาตรื้อถอนจากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานครตั้งแต่เดือน มิ.ย. 67 ในวันเกิดเหตุเกิดจากเครนมีปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เครนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้ชิ้นส่วนที่กำลังยกอยู่หล่นลงมา
ทั้งนี้ เป็นเรื่องอันตรายที่ไม่ควรเกิดขึ้น ต้องมีการทบทวนกระบวนการต่างๆ และได้สั่งการให้สำนักการโยธาไปดูอาคารที่กำลังรื้อถอนอยู่ พร้อมทั้งได้ทีการสั่งให้หยุดรื้อถอนอาคารศรีเฟื่องฟุ้งเป็นการชั่วคราวก่อนจนกว่าจะทราบสาเหตุที่แท้จริง และหาทางป้องกันต่อ สำหรับเหตุลักษณะนี้ไม่ควรเกิด เพราะทำให้ประชาชนไม่มั่นใจ
"คิดว่าปัญหาจากการรื้อถอนอาคาร จริงๆ มี 3 เรื่อง คือ 1. เรื่องเสียงและฝุ่นที่เกิดจากการรื้อถอน 2.ผลกระทบเรื่องการระบายน้ำ เพราะมีเศษหินเศษปูนตกลงไปในท่อระบายน้ำ 3.เรื่องความปลอดภัย เป็นหน้าที่ที่ต้องไปดูจุดที่เหมาะสม อาจมีผลกระทบบ้าง แต่ต้องมีการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่ข้างเคียง เป็นไปตามความเหมาะสม ซึ่งต้องหารือกัน แต่อย่างไรก็ตามครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต กทม. ต้องไปปรับปรุงกระบวนการและกำชับให้เข้มข้นขึ้น" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ด้าน นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ กล่าวเสริมว่า เบื้องต้นคาดการณ์สาเหตุไว้ 2 เรื่องหลักคือ 1.การทำงานเป็นไปตามที่กำหนดไว้หรือไม่ 2.เป็นความบกพร่องหรือเป็นความเสียหายจากอุปกรณ์ยกที่เป็นตัวเครนนี้หรือไม่ เพราะหากไฟฟ้าลัดวงจรควรมีระบบเบรกเกอร์หรือเซฟตี้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ต้องใช้เวลาประมาณ 15 วัน จึงจะทราบสาเหตุที่แท้จริงได้