รัฐบาล เตือน เฝ้าระวัง "เชื้อโนโรไวรัส" อาการคล้าย "อาหารเป็นพิษ"
รองโฆษกรัฐบาล เตือน วัยเด็กและกลุ่มคนจำนวนมาก ระวัง "เชื้อโนโรไวรัส" มีอาการคล้าย "อาหารเป็นพิษ" เสี่ยงช็อก-เสียชีวิต
จากกรณีการระบาดเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) ที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงของนักเรียน ครู และบุคลากร 2 โรงเรียน ใน อ.แกลง จ.ระยอง โดยขณะนี้พบผู้ป่วยแล้วรวม 1,436 ราย เป็นนักเรียน 1,418 ราย ครูและบุคลากร 18 ราย
19 ธ.ค. 2567 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงสุขภาพประชาชน เตือนช่วงหน้าหนาว เนื่องด้วยสภาพอากาศที่มีความชื้นและเย็น เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของโรคบางชนิด โดยเฉพาะเชื้อโนโรไวรัสที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันได้
จากข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า การระบาดของเชื้อโนโรไวรัสมักพบการติดต่อจากการปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม และน้ำแข็ง อาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น ผัก ผลไม้สด หรืออาหารที่นำวัตถุดิบที่นำมาปรุงไม่สุกสะอาด นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง หรือ การหยิบจับสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อแล้วนำเข้าปาก และเชื้อมักแพร่กระจายผ่านการหายใจ พบระบาดง่ายในกลุ่มเด็กนักเรียนหรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก มีระยะฟักตัวของเชื้อ 12 – 48 ชั่วโมง
โดยหลังการรับเชื้อ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ จะมีอาการคล้ายกับอาหารเป็นพิษ คือ อาเจียนรุนแรง ปวดท้อง ท้องเสีย มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยตามร่างกาย ในบางรายอาจทำให้มีอาการขาดน้ำ ส่งผลให้เกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้ ควรดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อทดแทนการเสียน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้น หรือ มีอาการรุนแรง เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ หรือถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด หรืออาเจียนเป็นจำนวนมาก ปากแห้ง ปัสสาวะออกน้อยหรือปัสสาวะไม่ออก หายใจหอบเหนื่อย ควรรีบไปสถานบริการสาธารณสุขทันที
เนื่องจากปัจจุบันไวรัสชนิดนี้ยังไม่มีวัคซีน ไม่มียาต้านไวรัส จึงต้องรักษาตามอาการ ดังนั้นขอให้ประชาชนทานอาหารที่สุก ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ เมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ยึดหลัก "กินสุก – ร้อน – สะอาด