ร้องเยียวยา ตำรวจจับผิดตัวกลางไร่อ้อย ให้เงิน 2 พัน เป็นค่ารถกลับบ้าน
พ่อแม่ร้องเยียวยา สาววัย 35 ปี ถูกจับกลางไร่อ้อย ตำรวจพาเข้ากรุงฯ ก่อนรู้จับผิดตัว ให้เงิน 2 พัน เป็นค่ารถกลับบ้าน
20 ธ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายแฮ็ด (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี และ นางหนูภักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.พรทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี หลังเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เพื่อขอความเป็นธรรม
ภายหลัง น.ส.พรทิพย์ ลูกสาวตนเอง ถูกตำรวจ สน.บางยี่ขัน พร้อมตำรวจ สภ.ภูเขียว ชุดสืบสวน จ.ชัยภูมิ นำหมายศาลอาญา ที่ จ.258/2567 ลงวันที่ 15 พ.ค. 2567 เข้าจับกุมบริเวณไร่อ้อย ทิศใต้บ้านโนนเสลา หมู่ 6 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และถูกแจ้งข้อหา "ลักทรัพย์ในเคหสถาน" โดย น.ส.พรทิพย์ ให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่บุคคลตามหมายจับและปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา
จากนั้นชุดจับกุมได้นำตัว น.ส.พรทิพย์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ น.ส.พรทิพย์ ก็ทราบว่าเป็นการจับผิดตัว พนักงานสอบสวนจึงไม่ได้ควบคุมตัวเข้าห้องขัง แต่ได้สอบปากคำ น.ส.พรทิพย์ เป็นพยานเข้าประกอบสำนวนเพื่อดำเนินการกับผู้ต้องหาที่แท้จริงต่อไป
พ่อและแม่ น.ส.พรทิพย์ บอกว่า ที่ผ่านมาลูกสาวของตนเอง ไม่เคยไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทุกวันทำงานอยู่ในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ทุกวัน แต่ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2558 เคยถูกหมายศาลแขวงดุสิต มาจับกุมตัวแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งลูกสาวได้ปฏิเสธ พร้อมทั้งยื่นคำร้องไม่ใช่บุคคลที่ถูกฟ้อง นอกจากนี้ยังไปเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.กัญญาภัทร (สงวนนามสกุล) จนถึงปัจจุบัน ไม่ทราบว่าถูกจับกุมได้อีกอย่างไร
น.ส.พรทิพย์ ผู้เสียหาย บอกว่า ไม่ติดใจการทำงานของตำรวจ สน.บางยี่ขัน แต่อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้ได้รับการเยียวยาต่อกรณีที่มีการจับผิดตัวในครั้งนี้บ้าง โดยตำรวจได้ส่งเงินค่ารถ เดินทางกลับบ้าน ที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ หลังมาจับผิดตัวมาเพียงแค่ 2,000 บาท เท่านั้นแล้วก็จบเรื่อง