ข่าว

เช็คสถานะ เงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท  รอบที่ 3 โอนสำเร็จ 166,795 ครัวเรือน

เช็คสถานะ เงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท รอบที่ 3 โอนสำเร็จ 166,795 ครัวเรือน

28 ธ.ค. 2567

เช็คสถานะ เงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท รอบที่ 3 โอนสำเร็จ 166,795 ครัวเรือน พื้นที่ จ.ปัตตานี สงขลา นราธิวาส และ พัทลุง ส่วน จ.กระบี่ คาดได้รับเงิน 3 ม.ค. 68

28 ธ.ค. 2567 นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่ง ปภ. ได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับจังหวัดที่ประสบภัยในการเร่งดำเนินการให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

โดยข้อมูลล่าสุด (27 ธ.ค. 67 เวลา 16.30 น.) ธนาคารออมสินได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ประสบภัย รอบที่ 3 สำเร็จแล้ว ซึ่งเป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี สงขลา นราธิวาส และพัทลุง รวมโอนเงินสำเร็จรวม 166,795 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,501,155,000 บาท (โอนเงินเมื่อวันที่ 25, 26,27 ธ.ค. 67) รวม 5 จังหวัด 26 อำเภอ โดยคาดว่าจะทำการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยรอบที่ 4 ของจังหวัดกระบี่ ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือฯ ในวันที่ 3 ม.ค. 68

โดยจากข้อมูลการโอนเงินของธนาคารออมสินที่ผ่านมา 3 รอบ พบว่า ยังมีปัญหาการโอนเงินไปยังผู้ประสบภัยไม่สำเร็จ เนื่องจากประชาชนยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน และสถานะทางบัญชีไม่ปกติ จำนวนกว่า 2,000 ครัวเรือน จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนทำการตรวจสอบการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย หากยังไม่ได้ผูกบัญชีฯ ขอให้ติดต่อธนาคารใดก็ได้เพื่อดำเนินการผูกบัญชีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความขัดข้องในการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ประสบภัยจะได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็ว

เช็คสถานะ เงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท  รอบที่ 3 โอนสำเร็จ 166,795 ครัวเรือน

อธิบดี ปภ. กล่าวอีกว่า สำหรับ 16 จังหวัด ที่ได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ปภ. ขอเน้นย้ำให้จังหวัดเร่งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผู้ลงทะเบียนที่ยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่กำหนด และให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อมูลดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ ไม่ให้มีการลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือซ้ำซ้อน

โดยผู้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย โดยต้องเข้าเงื่อนไขที่ ครม. กำหนด คือ ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และสิงห์บุรี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 20 พ.ค.-2 พ.ย. 67

และประชาชนในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 3 พ.ย. 67 เป็นต้นไปเท่านั้น

และได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสองกรณี กรณีแรกคือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมไม่เกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินเสียหาย และกรณีที่สองที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมเกิน 7 วัน ในกรณีที่ถูกน้ำท่วมหลายครั้งจะได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว

  • ขั้นตอนรับโอนเงินเยียวยาเงินช่วยเหลือ 9,000 บาท


ประชาชนต้องจัดเตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือฯ โดยเร็ว โดยสามารถดำเนินการลงทะเบียนได้ผ่าน 2 ช่องทาง

  • แบบ Onsite ยื่นด้วยตนเองที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ประสบภัย
  • แบบ Online ผ่านเว็บไซต์ https://flood67.disaster.go.th คลิก


กรณี ประชาชนตรวจสอบการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย หากยังไม่ได้ผูกบัญชีฯ

ขอให้ติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการผูกบัญชีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความขัดข้องในการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย และผู้ประสบภัยจะได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็ว

 

  • เช็คสถานะเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท

ไปที่เว็บไซต์ https://flood67.disaster.go.th/HELP/Check  (คลิกที่นี่) 

หลังจากนั้นกรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก ไม่ต้องเว้นวรรค

คลิก ตรวจสอบสถานะ

เช็คสถานะ เงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท  รอบที่ 3 โอนสำเร็จ 166,795 ครัวเรือน