ตั้งกรรมการสอบ "ดาบตำรวจ" ซ้อมหนุ่มเมาแล้วขับ หลังญาติโวยทำเกินกว่าเหตุ | คมชัดลึก

30 ธ.ค. 2567 นายวีรพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พร้อมด้วยญาติๆ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.โรจน์ เสาธง (สารวัตร)สอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี กรณีเมื่อวานนี้ (29 ธ.ค. 67) เวลาประมาณ 14.00 น. นายฤทธิ์ชัย หรือ ออย (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ถูกตำรวจจราจร จับกุมข้อหา "เป็นผู้เมาสุราขับรถจักรยานยนต์" แต่กลับถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยการเตะเข้าบริเวณหน้าอก และใช้อาวุธปืนยิงขู่จำนวน 2 นัด เหตุเกิดบริเวณถนนสายนเรศวร-ป่าหวาย หมู่ที่ 6 ต.ป่าตาล อ.เมือง ลพบุรี

ญาติให้ข้อมูลเพิ่มว่า หลังจากตำรวจยิงปืนขู่ ได้คุมตัวนายฤทธิ์ชัย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งทางญาติเห็นว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ทั้งที่ผู้ต้องหายอมให้จับกุมแล้ว ไม่ได้ต่อสู้ขัดขืน หรือมีอาวุธติดตัว อีกทั้งไม่ใช่ข้อหาร้ายแรง

ทั้งนี้ ญาติพยายามสอบถามถึงขั้นตอนการประกันตัว และขอตำรวจที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เก็บปลอกกระสุนปืน บันทึกสถานที่เกิดเหตุแบบขั้นตอนของตำรวจ แต่ไม่ได้ตามขอสักข้อ สุดท้ายขอนำตัวนายฤทธิ์ชัย ไปให้หมอดูอาการแต่ก็ถูกปฎิเสธอีก จนเดือดสุดๆ เกรงตำรวจเข้าข้างกัน ต้องมาพึ่งผู้สื่อข่าว สุดท้ายเวลา 22.00 น. ตำรวจได้นำตัวนายฤทธิ์ชัย ออกจากห้องคุมขัง ส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช สภาพหน้าบวมปูด และมีบาดแผลที่หน้าผาก โดยนายฤทธิ์เดชบอกว่าปวดศีรษะ และเจ็บหน้าอก

ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันนี้ (30 ธ.ค. 67) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้คุมตัวนายฤทธิชัย ส่งศาลแขวงจังหวัดลพบุรี เพื่อเปรียบเทียบปรับ โดยนายฤทธิชัย อยู่ในสภาพปวดศีรษะ ระบมตามลำตัว เนื่องจากถูก "ดาบเบนซ์" ใช้ปืนตบที่ศีรษะ ขณะที่ญาติซึ่งมารอเยี่ยม ยังคงรู้สึกกังวล เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ด้าน พ.ต.อ.จรินทร์ ลำลึก ผกก.สภ.เมืองลพบุรี ได้เรียกตัว พ.ต.ท.บันเทิง กลมแก้ว รองผกก.จร.สภ.เมืองลพบุรี ผู้บังคับบัญชาของ ดาบตำรวจชานนท์ หรือ "ดาบเบนซ์" มาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.จรินทร์ กล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่า วันดังกล่าวตำรวจพบผู้กระทำผิดซึ่งหน้า ได้เรียกตรวจผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจะมีการดื่มสุราขณะขับขี่รถ หลังจากทำการเป่าแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กำหนด ถึง 97 มิลลิกรรมเปอร์เซ็นต์

แต่ระหว่างกำลังควบคุมตัวนำตัวไปที่ สภ.เมืองลพบุรี ผู้ขับขี่ได้วิ่งหลบหนีไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิ่งไล่ตาม แต่ด้วยตำรวจมีลักษณะอ้วนจึงวิ่งไม่ทัน ยอมรับว่าได้ใช้อาวุธปืนประจำกายออกมายิงลงพื้นไป 2 นัด เพื่อให้ผู้หลบหนีได้หยุดวิ่ง จนสามารถควบคุมตัวได้ แต่ก็มีการกระทบกระทั่งกันจนได้รับบาดเจ็บที่หน้าผาก

ต่อมาได้นำตัวคนเจ็บส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ขณะที่ญาติติดใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งตนไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว รวมทั้งให้ตำรวจที่เกิดปัญหาหยุดปฏิบัติหน้าที่งานจราจร ไปจนกว่าผลสอบข้อเท็จจริงจะยุติ