ไม่ได้ค่าดอง 150,000 ว่าที่เจ้าสาวของขึ้น บุกบ้านแฟนหนุ่ม อาละวาดพังข้าวของ | คมชัดลึก

5 ม.ค. 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพข้าวของในบ้านพังเสียหาย พร้อมระบุข้อความว่า "ให้มันเป็นอุทาหรณ์ ค่าดอง 150,000 บาท ไม่ได้ตามเป้า ฝ่ายหญิงไม่พอใจ ช่วงค่ำตามมาอาละวาดยับ ส่วนฝ่ายชายหยิบยืมเถ้าแก่มาได้แค่ 50,000 บาท ไปสู่ขอ ไปคุยยังไง ฝ่ายหญิงก็ไม่ยอม ก็เลยเกิดเรื่องขึ้นมาแบบนี้ จากจะเป็นคู่สมรสสู่คู่กรณีของแท้ จากอยากได้ตังค์ก็มาเป็นเสียตังค์"

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของนายวสันต์ อายุ 23 ปี (ว่าที่เจ้าบ่าว) อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านไชยศรี ต.ป่าแฝก อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ได้พบกับนางบุญมี อายุ 73 ปี ย่าของนางวสันต์ และ น.ส.นงลักษณ์ พี่สะใภ้ของนายวสันต์ พาเดินสำรวจความเสียหาย บริเวณใต้ถุนบ้านและภายในบ้าน พบโต๊ะหินอ่อน 1 ชุด กระติกน้ำร้อน 1 เครื่อง พัดลม 1 ตัว ตู้เสื้อผ้า 1 หลัง ลำโพงบลูทูธ 1 ตัว ตู้เย็น รถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย รวมมูลค่าประมาณ 4,000-5,000 บาท โดยนางบุญมี เข้าแจ้งความแล้วที่ สภ.พรเจริญ

จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงเช้าของวันดังกล่าว นายวสันต์ ว่าที่เจ้าบ่าว ได้ไปตกลงค่าสินสอดกับครอบครัว น.ส.ก้อย (แฟนสาว) จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. น.ส.ก้อย มาที่บ้านหลังเกิดเหตุ มีลักษณะมึนเมา และได้ทุบทำลายข้าวของและทรัพย์สินภายในบ้าน โดยนางบุญมี ผู้เป็นย่า ประสงค์ที่จะดำเป็นคดี กับ น.ส.ก้อย และต้องการให้ชดใช้ค่าเสียหาย หลังรับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ พ.ต.ต.สุพจน์ โพธิ์สุวรรณ สว.(สอบสวน)สภ.พรเจริญ และจะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาตกลงไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย วันพรุ่งนี้ (6 ม.ค. 68)

นายวสันต์ ว่าที่เจ้าบ่าว กล่าวว่า หลังไปตกลงค่าสินสอด ฝ่ายหญิงกลับมาบอกว่า จะมาเอาผ้าห่ม และมีปากเสียงกันที่โต๊ะหินอยู่ใต้ถุนบ้าน ฝ่ายหญิงลงไม้ลงมือกับตัวเอง แต่ตนไม่ได้ตอบโต้อะไร ก่อนที่แฟนสาวจะใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ล้มลง 2 ครั้ง ตนจึงเข็นรถจะเอาไปฝากไว้บ้านข้างๆ ช่วงนั้นฝ่ายหญิงก็เข้าไปทำลายข้าวของภายในบ้าน แล้วกลับไป

ตั้งแต่เกิดเหตุไม่ได้ติดต่อ หรือมาขอโทษเลย จริงๆ เรื่องนี้ไม่อยากให้มันเป็นข่าว อยากให้แฟนมาชดใช้ค่าเสียหายและขอโทษเท่านั้นก็พอ ส่วนเรื่องแต่งงานยังตอบไม่ได้ เพราะถือเงินไปแล้วฝ่ายหญิงก็ไม่เอา คงจะไปกันไม่ได้ เพราะฝ่ายหญิงเรียกสินสอดสูงเกินไป 150,000 บาท ตนเองมีแค่ 50,000 บาท

ด้าน น.ส.นงลักษณ์ พี่สะใภ้นายวสันต์ กล่าวว่า วันนั้นมีเงิน 50,000 บาท เพื่อไปสู่ขอ และจะพาฝ่ายหญิงมาอยู่บ้านหลังเกิดเหตุด้วย ที่ผ่านมาฝ่ายหญิงก็พูดกับฝ่ายชายว่าขอค่าดอง 100,000 บาท ถ้าไม่ได้จะเอาลูกออก เพราะฝ่ายหญิงอ้างว่าตั้งครรภ์เกือบเดือนแล้ว ฝ่ายหลานชายก็มารบเร้าปู่กับย่า ให้หาเงินไปแต่งงาน ย่าบอกว่าจะให้ไปหาเงินมาจากไหน ตั้ง 1 แสนบาท อายุก็เยอะแล้ว ไปหาหยิบหายืมใครเขาจะให้ ทุกวันก็อาศัยกรีดยางพาราไม่กี่ไร่ พอมีเงินได้ใช้จ่ายเท่านั้น

หลังจากนี้เรื่องของหลานชาย และแฟนของเขา ก็ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 คน ว่าจะตกลงกันอย่างไร จะไปกันต่อหรือจบความสัมพันธ์แค่นี้ ยืนยันว่าฝ่ายชายไม่ได้ประวิงเวลา หลานชายพยายามไปหาเงินมาสู่ขอ จนไปยืมจากเถ้าแก่ที่ทำงาน ซึ่งก็ให้ยืม เพราะลูกน้องไม่เป็นอันทำงาน คิดแต่เรื่องแฟนสาว