อัปเดต ประกันสังคม ปรับสิทธิเพิ่ม 4 เรื่อง ให้ผู้ประกันตน ปี 2568
KEY
POINTS
- ผู้ประกันตน มาตรา 33 และ มาตรา 39 รับเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็น 1,000 บาท
- เริ่ม 1 มกราคม 2568 มะเร็งรักษาทุกโรงพยาบาล เอ็มโอยูประกันสังคม
- เพิ่มรพ.ประกันสังคม 7 แห่ง
- เพิ่มเงินทดแทนว่างงานขยับจากเดิม 50 % เป็น 60 %
6 ม.ค. 2568 สำนักงาน ประกันสังคม เปิดเผยข้อมูล ผู้ประกันตนในระบบ ประกันสังคม พบว่า มีผู้ประกันตนทั้งหมด 24.80 ล้านคน ประกอบด้วยมาตรา 33 จำนวน 12.07 ล้านคน มาตรา 39 จำนวน 1.72 ล้านคน มาตรา 40 จำนวน 11.01 ล้านคน
จากข้อมูลยังพบว่า สำนักงานประกันสังคม จ่ายสิทธิประโยชน์ สิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม 7 กรณี แก่ผู้ประกันตนไปแล้ว จำนวน 38.58 ล้านครั้ง จำนวน 112,829.93 ล้านบาท และกองทุนเงินทดแทน จำนวน 1,821.25 ล้านบาท รวมสิทธิประโยชน์จากทั้ง 2 กองทุน จำนวน 114,651.18 ล้านบาท
กองทุนประกันสังคม มีเงินสมทบสะสม กว่า 2.6 ล้านล้านบาท ผลตอบแทนสะสมจากการลงทุน 989,740 ล้านบาท ในปี 2567 ผลตอบแทนจากการลงทุนที่รับรู้แล้วในช่วงม.ค.-ต.ค.2567 จำนวน 54,235 ล้านบาท
ขณะที่ กองทุนเงินทดแทน เงินลงทุนสะสมกว่า 81,538 ล้านบาท ผลตอบแทนสะสม 30,264 ล้านบาท ปี 2567 ผลตอบแทนจากการลงทุนที่รับรู้แล้วในช่วงม.ค.-ต.ค.2567 จำนวน 2,016 ล้านบาท
'ประกันสังคม 2568' ปรับสิทธิเพิ่ม 4 เรื่อง ดังนี้
1. เงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็น 1,000 บาท
สำหรับในปี 2568 ประกันสังคม มีการพิจารณาเพิ่มสิทธิหลายส่วนให้กับผู้ประกันตน ทั้งที่มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 และส่วนที่คณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) เห็นชอบแล้วรอออกประกาศ
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ผู้ประกันตน มาตรา 33 และ มาตรา 39 ซึ่งมีบุตรตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ ได้รับ เงินสงเคราะห์บุตร จาก 800 บาท เพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ต่อบุตร 1 คน โดยได้สิทธิคราวละไม่เกิน 3 คน
กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเดิมอยู่แล้ว สำนักงานประกันสังคมจะปรับเงินสงเคราะห์บุตรของเดือนมกราคม 2568 เป็น 1,000 บาทให้โดยอัตโนมัติ
กรณีผู้ประกันตนที่มีสิทธิกรณีสงเคราะห์บุตรใหม่ ต้องยื่นแบบคำขอกับสำนักงานประกันสังคม โดยสำนักงานจะจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรของเดือนมกราคม 2568 เป็น 1,000 บาท ให้โดยอัตโนมัติเช่นกัน
2. มะเร็งรักษาทุกรพ.เอ็มโอยูประกันสังคม
เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค.2568 เรื่อง "รักษามะเร็งได้ทุกโรงพยาบาล" โดยผู้ประกันตนสามารถไปรักษาที่ รพ.แห่งใดก็ได้ที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคม แล้วประกันสังคมจะตามไปจ่าย ไม่ต้องรักษาเฉพาะแต่ รพ.ประกันสังคมตามสิทธิเท่านั้น ตามโครงการ SSO Cancer Care (โดยสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส.) รักษาโรคมะเร็งที่มีคุณภาพสำหรับผู้ประกันตนแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยจนถึงการรักษา
ปัจจุบันสามารถเข้ารับการรักษาที่ รพ. ใดก็ได้ ที่ทำข้อตกลงกับทางประกันสังคม มีกว่า 50 รพ. ที่เข้าร่วมข้อตกลงกับประกันสังคม รวมถึงเพิ่มยามุ่งเป้าสำหรับมะเร็ง ถือเป็นการเพิ่มการเข้าถึงการรักษาโรคมะเร็งของผู้ประกันตน
ผู้ประกันตนสามารถตัดสินใจร่วมกับแพทย์ที่ทำการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิผู้ประกันตนสามารถสอบถามเพิ่มได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือโทร.สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 1 สำนักงานประกันสังคม
3. เพิ่มรพ.ประกันสังคม 7 แห่ง
ทั้งนี้ ในปี 2568 มีรพ.ที่สมัครใหม่เข้าเป็น รพ.คู่สัญญาประกันสังคม จำนวน 7 แห่ง เป็นรพ.รัฐ 4 แห่ง และรพ.เอกชน 3 แห่ง คือ
- รพ.จุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานคร
- รพ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
- รพ.ราชวิถี 2(รังสิต) จ.ปทุมธานี
- รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
- รพ.วัฒนแพทย์สมุย จ.สุราษฎร์ธานี
- รพ.พญาไทศรีราชา 2จ.ชลบุรี
- และรพ.ราชธานี หนองแค จ.สระบุรี
ทำให้มีสถานพยาบาลประกันสังคมทั้งหมด 271 แห่ง เป็นรพ.รัฐบาล 174 แห่ง และรพ.เอกชน 97 แห่ง ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเปลี่ยนรพ.สิทธิประกันสังคมได้ปีละ 1 ครั้ง ในปีนี้สามารถเลือกเปลี่ยนได้จนถึงวันที่ 31มีนาคม 2568
4. เงินทดแทนว่างงานขยับเป็น 60 %
ส่วนสิทธิที่บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบแล้ว อยู่ระหว่างการออกประกาศนั้น “กรณีการว่างงาน” โดยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2567 มีมติเห็นชอบ แนวทางการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน สำหรับการว่างงานเพราะเหตถูกเลิกจ้าง ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนเป็น 60 % ของค่าจ้างรายวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้ 50 % ของค่าจ้างรายวัน
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสิทธิประโยชน์ ที่ สำนักงานประกันสังคม เตรียมพิจารณาปรับให้กับ ผู้ประกันตน อาทิ เล็งเพิ่มสิทธิทำฟัน ประกันสังคม, ขยายฐานอายุผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็น 65 ปี , ผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือ 39 ที่มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพ สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39/1 เพื่อรับสิทธิประโยชน์ 3 กรณี คือ 1) ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย 2) ทุพพลภาพ และ 3) ตาย, กรณีผู้ประกันตนออกจากงานจะได้สิทธิประโยชน์สงเคราะห์บุตรต่ออีก 6 เดือน เพิ่มเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรจากเดิมในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเพิ่มเป็น 98 วัน (เดิม 90 วัน), เพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพเป็น70 % (เดิม 50 %) กรณีว่างงานให้ลูกจ้างที่มีอายุไม่เกิน 60 ปี มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจนเสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงจะได้รับเงินกรณีชราภาพ เป็นต้น รวมถึง ประเด็นเรื่องการ “ปรับเพดานค่าจ้าง เงินสมทบประกันสังคม”
ข้อมูลจาก : bangkokbiznews