ดีเอสไอ หอบสำนวน คดี "กำนันนก" ฮั้วประมูล เสนออัยการสั่งฟ้อง 41 ราย
ดีเอสไอ หอบสำนวน 48 แฟ้ม หนา 18,433 แผ่น คดี "กำนันนก" ฮั้วประมูล เสนอพนักงานอัยการ สั่งฟ้อง รวม 41 ราย
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน กรณีบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด ซึ่งมี นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในจังหวัดนครปฐมเป็นผู้ชนะ การประมูลเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555-2566 กว่า 1,500 โครงการ ความเสียหายหลายพันล้านบาท
โดยเชื่อว่ามีการตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีคำสั่งให้กรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1)(ง (คดีความผิดทางอาญาที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สําคัญเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน) โดยคดีดังกล่าวมีพนักงานอัยการ สำนักการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วมทำการสอบสวนกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตั้งแต่เริ่มการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วสามารถดำเนินคดีกับขบวนการที่จัดฮั้วประมูลในโครงการประมูลด้วยวิธีประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ที่ทำให้รัฐเกิดความเสียหายจำนวนมาก
ล่าสุด 9 ม.ค. 2568 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ, ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ, นายศุภภางกูร พิชิตกุล รองผู้อำนวยการฯ, นายวิโรจน์ ทูคำมี รองผู้อำนวยการฯ, นายโยธิน ธรรมสุรีย์ ผู้อำนวยการส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 1, นางภัทรพร วิจิตรทัศนา ผู้อำนวยการส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2 และนายนรา จันทร์พ่วง ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการคดี
นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษกรณีดังกล่าว จำนวน 48 แฟ้ม รวม 18,433 แผ่น พร้อมความเห็นให้ฟ้องผู้ต้องหา 41 ราย ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหา ตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้า หรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ
ร่วมกันเป็นธุระในการชักชวนให้ผู้อื่นร่วมตกลงกันในการเสนอราคา ร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงิน หรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้อื่น เพื่อประโยชน์ในการเสนอราคา โดยมีวัตถุประสงค์ ที่จะจูงใจให้ผู้นั้น ร่วมดำเนินการใด ๆ อันเป็นการให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ หรือเพื่อจูงใจ ให้ผู้นั้นไม่เข้าร่วมในการเสนอราคาหรือถอนการเสนอราคา เรียก รับหรือยอมจะรับเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 5 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งในวันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนการสอบสวนดังกล่าวพร้อมกับตัวผู้ต้องหา จำนวน 40 ราย ให้พนักงานอัยการร ยกเว้นกำนันนกที่อยู่ระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 3694/2566 ของศาลอาญาและคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 206/2566 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง