เด็ก 14 ยอดซื่อสัตย์ เก็บสร้อยข้อมือทองคำ 5 บาทส่งคืนเจ้าของ ก๊วนฮาร์เลย์
สุดยอดความซื่อสัตย์ น้องข้าวฟ่าง เด็ก 14 เก็บสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 5 บาท ส่งคืนเจ้าของ วิศวกรต่างถิ่น ขี่รถฮาร์เลย์มาเที่ยวกับก๊วนเพื่อน พากันชื่นชม
19 ม.ค. 2568 เวลา 13.00 น. ด.ต.เฉลิมพงษ์ ศรีศิล ตำรวจท่องเที่ยวกำแพงเพชร สังกัดกองตำรวจท่องเที่ยว 3 กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 แจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มฮาร์เลย์จาก จ.ระยอง และชลบุรี เดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.กำแพงเพชร และได้ทำสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 5 บาท สูญหาย และมีเด็กหญิง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.1 เก็บได้ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน จ.กำแพงเพชร และส่งคืนเจ้าของ จึงอยากจะขอขอบคุณและมอบสินน้ำใจที่ชาว จ.กำแพงเพชร มีต่อนักท่องเที่ยว ที่เห็นความเดือดร้อนของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ
โดยที่ ศาลหลักเมืองกำแพงเพชร พบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว รวมทั้ง นายทรงศักดิ์ พนาวงค์รุ่งโรจน์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/377 หมู่ 4 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง วิศวกร เจ้าของสร้อยข้อมือที่สูญหาย โดยทั้งหมดได้เดินทางมาไหว้ศาลหลักเมือง ในขณะที่บางส่วนได้ไลฟ์เฟซบุ๊กขอบคุณคนกำแพงเพชรที่มีน้ำใจต่อนักท่องเที่ยวและกำลังจะเดินทางไปขอบคุณเด็กนักเรียนที่เก็บสร้อยข้อมือไว้ได้ ก่อนเดินทางกลับ
โดย นายทรงศักดิ์ เจ้าของสร้อยข้อมือทองคำ เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2568 ตนและเพื่อนๆเดินทางมาทำบุญขึ้นบ้านใหม่เพื่อน และมาท่องเที่ยวที่ จ.กำแพงเพชร ระหว่างขับรถมาไม่รู้ว่าทองหล่นหายที่ไหน ตอนไหน เมื่อมาถึงที่งาน ถึงได้รู้ว่าสร้อยข้อมือไม่ได้อยู่ที่ข้อมือแล้ว
จึงได้ขับรถย้อนกลับไปหา เริ่มจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มาเรื่อยๆจนมาถึงที่ปั๊มน้ำมันในกำแพงเพชร เจอเด็กคนหนึ่งจึงเข้าไปถามน้อง น้องบอกว่าเก็บทองได้ ตอนแรกน้องคิดว่าเป็นทองปลอมและได้ส่งให้แม่ แม่เด็กจึงให้ตนหาหลักฐานมายืนยัน ตนจึงพยายามหาหลักฐานมาแสดงจนแม่เด็กมั่นใจว่าเป็นเจ้าของ เพราะจำแก็งฮาร์เลย์ได้ จึงคืนทองให้กับตน ตนจึงมอนสินน้ำใจให้ แต่เด็กและแม่เด็กไม่ยอมรับ ตนจึงขอให้รับไว้ เพราะตนตั้งใจจะให้เป็นสินน้ำใจ เพราะจริงๆ ตนต้องสูญเสียทองที่มีมูลค่าสองแสนไปเลย แต่ได้คืนมาถือว่าโชคดีมากๆ
ต้องขอบคุณแม่และเด็กที่คิดดีทำดีแบบนี้ ถือเป็นคนดีของ จ.กำแพงเพชร จากนั้นทั้งหมดจึงได้เดินทางไปยังปั๊มน้ำมันพีทีกำแพงเพชร 4 (พหลโยธินขาขึ้น) พื้นที่ ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เพื่อพบกับ ด.ญ.ชัชฎาภรณ์ บูรณะพันธุ์ หรือน้องข้าวฟ่าง อายุ14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนครไตรตรึงษ์ จ.กำแพงเพชร ที่เก็บสร้อยข้อมือได้ พร้อมด้วยนางสาวจินดาพร รักภิรมย์ อายุ 45 ปี แม่ของน้องข้าวฟ่าง ที่รอส่งคืนเจ้าของ
โดยทั้งหมดได้พากันกล่าวของคุณที่เป็นคนดีมีน้ำใจ ทั้งน้องข้าวฟ่างที่เก็บทรัพย์สินของผู้อื่นได้แล้วพร้อมที่จะส่งคืน ส่วนผู้เป็นแม่นี่ถือว่าอบรมสั่งสอนลูกมาได้ดีที่สุด และเป็นแบบอย่างให้ลูกได้เห็น
ทั้งนี้ นอกจากเจ้าของสร้อยข้อมือจะมอบสินน้ำใจให้แล้ว ทั้งหมดยังช่วยกันรวบรวมสินน้ำใจมอบให้น้องข้าวฟ่าง เพื่อเป็นทุนแห่งคุณงามความดีในครั้งนี้อีก
ด้าน น้องข้าวฟ่าง เล่าว่า ตอนนั้นกำลังจะขี่รถจยย.ไปเอาผ้าที่ซักไว้ สังเกตเห็นวัตถุบางอย่างสีเหลืองๆจึงจอดดูและหยิบขึ้นมาจึงรู้ว่าเป็นทองคำ จากนั้นจึงนำขึ้นมาดูว่าใช่ทองจริงหรือเปล่า จากนั้นจึงนำมาให้น้าที่เป็นพนักงานปั๊มและแม่ตนดู และเพื่อความแน่ใจจึงเอาไปให้ร้านทองตรวจสอบพบว่าเป็นทองคำจริง มีน้ำหนัก 5 บาท จึงได้นำกลับมาเพื่อรอส่งคืนเจ้าของ
ตอนแรกแม่จะนำไปแจ้งความ แต่พอดีเจ้าของมาตามหาพอดี จึงได้ส่งคืนเจ้าของในที่สุด ตอนแรกที่ยังไม่ไปแจ้งความเพราะไกลจากสถานีตำรวจและไม่ไว้ใจใครระหว่างเดินทาง แต่ก็ได้ประสานตำรวจที่รู้จักกันไว้แล้ว และที่สำคัญอยากให้เจ้าของมารับเอง เพราะเขาต้องเดือดร้อนเป็นอย่างมาก คงจะต้องตามหาอยู่
ขณะที่นางสาวจินดาพร รักภิรมย์ แม่ของน้องข้าวฟ่าง กล่าวว่า ตอนแรกที่เจอทองในความคิดคือจะต้องไปโรงพักก่อนเลย โดยบอกกับลูกว่า ป่านนี้เจ้าของคงตามหาแล้วล่ะ ก็เลยโทรตามลูกสาวอีกคนว่าจะไปโรงพัก แต่ก็แอบกังวลว่าเจ้าของจะได้คืนหรือเปล่ากลัวจะมาตามหาไม่เจอ จึงพยายายามหาทางติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รู้จัก เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าของสร้อยทองเข้ามาถามหาพอดี ตนก็พยายามถามลักษณะทอง และให้หาหลักฐานมายืนยัน ก็ตรงตามที่ตนไปเช็กมาก่อนที่จะเตรียมไปแจ้งความ จึงได้ส่งคืนไป เพราะไม่คิดจะเก็บไว้เป็นของตน เพราะสงสารเห็นใจเจ้าของ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยมันไม่ใช่ของเราก็ต้องส่งคืน
จากนั้นนักท่องเที่ยวกลุ่มฮาร์เลย์จึงได้เดินทางกลับ โดยสัญญาว่าจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนมาเที่ยวจ.กำแพงเพชร เยอะๆ และหากครอบครัวน้องข้าวฟ่างจะไปเที่ยว จ.ระยอง และชลบุรี ยินดีที่จะดูแลตลอดเวลา ต้องขอขอบคุณชาว จ.กำแพงเพชรที่มีน้ำใจให้กับนักท่องเที่ยวเช่นนี้