ข่าว

กทม. ขยายระยะเวลา WFH ต่อเนื่องถึง 24 ม.ค. ค่าฝุ่นสูงขึ้นแตะระดับสีแดง

กทม. ขยายระยะเวลา WFH ต่อเนื่องถึง 24 ม.ค. ค่าฝุ่นสูงขึ้นแตะระดับสีแดง

21 ม.ค. 2568

กทม. ประกาศขยายระยะเวลา WFH 22-24 ม.ค. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้น เตือน พรุ่งนี้ (22 ม.ค.) ระดับสีแดงหลายจุด

จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วง 7 วันข้างหน้า มีแนวโน้มสูงในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงบางพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.)  จะพบค่าฝุ่นอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพหรือระดับสีแดงในหลายจุด

 

21 ม.ค. 2568 นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. ประกาศขยายระยะเวลา WFH เพิ่มเติม ในวันที่ 22 - 24 ม.ค. เพื่อลดการเดินทาง ลดปริมาณรถยนต์ในภาคการจราจรซึ่งเป็นต้นตอหนี่งของฝุ่นในกรุงเทพฯ 
 

สืบเนื่องจากการที่ กทม. ได้มีการประกาศขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมถึงประชาชนที่สะดวกทำงานที่บ้าน ร่วม WORK FROM HOME (WFH) ในวันจันทร์และอังคารที่ 20 - 21 ม.ค. และจะมีการประกาศขยายระยะเวลา WFH เพิ่มเติมต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 24 ม.ค. หากสถานการณ์ฝุ่นยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องนั้น  กทม. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

 

กทม. ขยายระยะเวลา WFH ต่อเนื่องถึง 24 ม.ค. ค่าฝุ่นสูงขึ้นแตะระดับสีแดง

โดยวานนี้ (20 ม.ค. 68) ณ เวลา 07.00 น. ภาพรวมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 พบเกินค่ามาตรฐานทั้ง 50 เขต ดัชนีคุณภาพอากาศระดับสีส้ม 50 เขต ส่วนในวันนี้ ณ เวลา 07.00 น. ภาพรวมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 พบเกินค่ามาตรฐานทั้ง 50 เขตเช่นกัน โดยดัชนีคุณภาพอากาศระดับสีแดง 2 เขต ส้ม 48 เขต และจากการพยากรณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 22 - 24 ม.ค. 68 พบว่า 
1. มีเขตที่ค่าฝุ่นเข้าเกณฑ์สีส้ม 35 เขตขึ้นไป 
2. อัตราการระบายอากาศไม่ดี คือ อยู่ระหว่าง 875 - 2,250 ตารางเมตรต่อวินาที (m2/s) โดยวันที่ 22 ม.ค. คาดการณ์อัตราการระบายอากาศอยู่ที่ 1,750 m2/s วันที่ 23 ม.ค. คาดการณ์อัตราการระบายอากาศอยู่ที่ 1,125 m2/s วันที่ 24 ม.ค. คาดการณ์อัตราการระบายอากาศอยู่ที่ 2,125 m2/s 
3. คาดการณ์ทิศทางลมตะวันออกเฉียงเหนือ 
4. จุดเผาภาคกลาง/ตะวันออก 5 วันติดต่อกัน (11 - 15 ม.ค. 68) เกินวันละ 80 จุด ทั้งนี้ เนื่องจากมวลอากาศเย็นที่ยังคงปกคลุมพื้นที่ตอนเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้อากาศนิ่งและจมตัว และเกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น 

 

คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นช่วงวันที่ 25 - 27 ม.ค. เนื่องจากมีอัตราการระบายที่เพิ่มขึ้น

 

สำหรับคนที่ไม่สามารถ WFH ได้ หรือ มีความจำเป็นต้องออกจากบ้านอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ขอให้ระมัดระวังและดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ คนชรา ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรัง ฯลฯ ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งและตลอดเวลาที่ออกนอกอาคาร รวมถึงจำกัดระยะเวลาในการอยู่นอกอาคาร 

 

อย่างไรก็ตามควรงดทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากหรือเป็นเวลานาน และต้องสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยสามารถเข้ารับบริการที่คลินิกมลพิษทางอากาศที่เปิดให้บริการทั้งหมด 8 แห่ง ดังนี้ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ โรงพยาบาลนคราภิบาล (โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร) โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และโรงพยาบาลสิรินธร

 

โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ทุกคนยังสามารถมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษในวันที่กรุงเทพฯ มีฝุ่นสูง โดยเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ จอดรถไว้ที่บ้าน หรือทางเดียวกันไปด้วยกัน เพราะรถทุกคันมีส่วนต่อการสร้างฝุ่น การใช้ระบบขนส่งมวลชนจะสามารถช่วยลดฝุ่นจากยานพาหนะได้มาก 

 

นอกจากนี้ขอชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น หมั่นทำความสะอาดบ้านด้วยวิธีเช็ดฝุ่น 2.งดเผาขยะ งดจุดธูป 3.ปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษดักจับฝุ่นละออง 4.เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ และ 5.ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ตรวจและดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีไม่ให้มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน

 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านเพื่อให้สามารถป้องกันและดูแลสุขภาพตนเองในเบื้องต้น โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศผ่านทาง
     - แอปพลิเคชัน AirBKK
     - www.airbkk.com
     - https://greener.bangkok.go.th
     - FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กทม
     - FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
     - FB: กรุงเทพมหานคร
     - LINE ALERT
และหากพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue

 

กทม. ขยายระยะเวลา WFH ต่อเนื่องถึง 24 ม.ค. ค่าฝุ่นสูงขึ้นแตะระดับสีแดง