27 ม.ค. 2568

รมว.คลัง ยืนยัน แจกเงินหมื่นเฟส 3 ไตรมาส 2 มาแน่ เตรียมงบรอแล้ว 160,000 ล้านบาท พร้อมเปลี่ยนแปลงระบบจ่ายเงิน แต่ไม่เปลี่ยนคุณสมบัติ

27 ม.ค. 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 วันแรก ว่า ขณะนี้ยอดผู้สูงอายุเบื้องต้นที่โอนไปแล้ว มียอดประมาน 3 หมื่นล้านคน คาดว่าจะทราบในเย็นวันนี้ว่ามียอดเท่าไหร่ ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่เกษียณแล้ว แต่ก็อาจจะมีงานทำบ้าง ดังนั้นอาจนำใช้ 2 วิธี คือ 1.ใช้จับจ่ายใช้สอย 2.ต่อยอดทำธุรกิจ ซึ่งเราชอบทั้ง 2 อย่าง เพราะอยากเห็นผู้สูงวัยมีกิจกรรมและอาชีพทำต่อไป

ส่วนที่มีผู้สูงอายุบางคนยังไม่ได้รับสิทธิ์ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การที่เงินไม่เข้าน่าจะมี 2 กรณี คือ

 

1.กรมบัญชีกลางทําการโอนเงินผ่านเรียบร้อย ซึ่งธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ จะแจ้งกลับมาภายในวันนี้ว่ามีการโอนเงินไม่สำเร็จเท่าไหร่ เราจึงจะทราบจํานวนผู้ที่มีปัญหาในบัญชีปลายทาง เช่น บัญชีมีสภาพปิดไปแล้ว แต่ยังผูกกับระบบพร้อมเพย์ และเมื่อได้รายชื่อกลับมา เราจะดำเนินการโอนซํ้าทุกวันที่ 28 ในอีก 3 เดือน

 

2.กรณีถูกปฏิเสธตั้งแต่ต้น คือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐไว้แล้ว แต่มีคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะถูกตัดออกจากระบบโดยอัตโนมัติ หากมีความสงสัย ก็มีช่องทางในการสอบถาม เช่น เบอร์สายตรง 1111 ของรัฐบาล เราจะรับชื่อไปกระทบยอดอีกครั้งว่ามีความผิดพลาดหรือไม่

 

ส่วนการแจกเงินดิจิทัลให้กับกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนต่อไป ใช้เวลาไม่นาน เพราะระบบลงทะเบียนพร้อมหมดทุกอย่าง ซึ่งการดําเนินการกับคนกลุ่มนี้ มีความซับซ้อนน้อยกว่าการลงทะเบียนผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตด้วยซํ้า

แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 

นายจุลพันธ์ ยังยืนยันตามเดิมว่า จะเดินหน้าในช่วงไตรมาส 2 ไม่มีเปลี่ยนแปลง ส่วนวงเงินเตรียมรอไว้ไม่ต่ำกว่า 160,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดพร้อมดำเนินการตามระบบเดินหน้าได้ตามที่แจ้งไว้ ทั้งหมดยังอยู่ในกรอบเวลา มั่นใจว่าจะเดินหน้าในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน

 

โดยระบบที่ใช้เป็นระบบจ่ายเงินในวอลเล็ตแบบใหม่ มีบล็อกเชนเป็นฐานข้อมูล และยืนยันว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์

 

เมื่อถามถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจ หากวงเงินไม่พอจะต้องใช้งบปี 69 หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณา แต่เราเตรียมงบประมาณไว้ระดับหนึ่ง ยังมีช่องทางและกลไกอื่น ไม่ได้ต้องใช้งบประมาณรัฐทั้งหมด