ไฟไหม้ป่า เขาพลอง ลุกลามเข้าสวนนกชัยนาท จนท. ระดมรถดับเพลิง 20 คัน เร่งสกัด | คมชัดลึก

28 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบล กรมทางหลวง ปภ.จังหวัด และเทศบาลเมืองชัยนาท กว่า 20 คัน ระดมดับเพลิงที่ลุกไหม้ป่าบนเขาพลอง ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับสวนนกชัยนาท โดยเพลิงลุกลามลงมาจนเกือบถึงสวนน้ำอวกาศ (หุ่นยนต์ NAKA ROBOT) และอาคารพิพิธภัณฑ์ไข่นก แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการสกัดเพลิงไว้ได้ 

นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณเขาพลองตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ยังไม่มากขณะที่เมื่อช่วงเช้ามีลมแรง ทำให้ไฟกระจายออกไปมากยิ่งขึ้น จนช่วงค่ำได้ลามมาจนถึงบริเวณหลังสวนนกชัยนาท จึงได้ประสานระดมรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ 

นายจิระ ชูแก้ว หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยว อบจ.ชัยนาท เปิดเผยว่า วิธีการดำเนินงานดับเพลิงวันนี้ ได้นำรถแมคโครไปทำแนวกันไฟส่วนหนึ่งแล้ว และชุดเดินเท้าของท้องถิ่นด้วย และทำแนวกันป้องกันวัดเขาพลองด้วย สำหรับส่วนที่เป็นไฟติดกระจายอยู่เป็นท่อ PE ซึ่งจะไม่มีผลอะไร ส่วนที่เหลือยังลุกลามอยู่ที่หลังสวนน้ำ เป็นหน้าผาไม่สามารถขึ้นไปดับได้ ใช้วิธีทำแนวกันไฟ และเมื่อไฟลามลงมาใช้น้ำแรงดันสูงยิงขึ้นไปดับ 

นายจิรศักดิ์ เจริญศิลป์ นายกเทศมนตรีตำบลบางหลวง หัวหน้าทีมผจญเพลิง เปิดเผยว่า เรามีแผนในการดำเนินงานโดยแบ่งเป็น 2 ชุด คือ เดินเท้า และอีกชุดน้ำรถดับเพลิงขึ้นไปด้านบน ใช้สายดับเพลิงลากดับด้านล่าง จำนวน 15 เส้น ส่วนชุดเดินเท้าสะพายเครื่องเก็บรายละเอียดด้านข้าง คาดว่าคืนนี้จะต้องดับให้ได้ทั้งหมด 

ขณะที่ทางด้าน นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ได้เน้นย้ำแนวทางการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยขอให้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ฝ่ายปกครอง ตำรวจ หน่วยงานทหาร ภาคเอกชน และประชาชนให้ยกระดับการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองให้เข้มข้นจริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยใช้มาตรการทางกฎหมาย ห้ามเผาอย่างเด็ดขาด ให้ใช้ข้อมูลตำแหน่งจุดความร้อน (Hotspot) เพื่อวางแผนการปฏิบัติการที่ถูกต้องและแม่นยำ 

หากพบจุดความร้อนในพื้นที่รับผิดชอบ ให้เร่งเข้าปฏิบัติการดับไฟป่าทันที เพื่อไม่ให้เกิดการลุกลามขยายวงกว้าง ให้ระดมสรรพกำลังเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากทุกหน่วยงาน ทั้งฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าปฏิบัติการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และมีข้อสั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยนาท ให้ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงข้อสั่งการและมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงให้ อสม. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ตามบ้านเรือนประชาชนถึงข้อหาและฐานความผิด บทกำหนดโทษและอัตราโทษจากการเผาทุกชนิดให้ทราบอีกด้วย