
ทนายตั้ม-ภรรยา ปฏิเสธ ขอสู้คดีฉ้อโกง "เจ๊อ้อย" ทนายเผย สภาพจิตใจล่าสุด
เบิกตัว ทนายตั้ม-ภรรยา จากเรือนจำ ขึ้นศาลสอบคำให้การ ปฏิเสธขอสู้คดี ฉ้อโกง "เจ๊อ้อย" ทนายเผย สภาพจิตใจล่าสุด
7 ก.พ. 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การในคดีที่พนักงานอัยการคดีพิเศษยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด จำเลย ในความผิดฐานฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ เเละข้อหาอื่นที่เกี่ยวพันกันกับพวกรวม 7 คน กรณีจำเลยกับพวก ร่วมกันหลอกลวงฉ้อโกง และฟอกเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ "มาดามอ้อย เศรษฐินี"
โดยวันนี้จำเลยทุกคนที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี เดินทางมาตามนัดสอบคำให้การ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวทนายตั้มกับภรรยามาศาลสอบคำให้การ
นายนายเริงยศ ทรัพย์เงินทอง และ นายพินิจ ลักษณวิศิษฏ์ ทนายของนายษิทรา เเละ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา กล่าวก่อนสอบคำให้การว่า วันนี้เป็นการสอบคำให้การเท่านั้น เบื้องต้นยังไม่ได้คุยกับลูกความ เดี๋ยวขอขึ้นไปคุยกับลูกความก่อนว่าจะให้การอย่างไร
เมื่อถามว่าจากนี้จะมีการยื่นขอประกันอีกหรือไม่ ทนายความ บอกว่า ขอดูความเหมาะสมของเวลาคาดว่าจะอย่างไรและขอดูนัดตรวจพยานหลักฐานนัดหน้าก่อน และขอไปปรึกษากับทีมทนายก่อนว่าจะเอาอย่างไร ส่วนครั้งที่แล้วที่ศาลไม่ได้ให้ประกันนั้นเป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งตนและลูกความไม่ได้มีความกังวลอะไรทำตามขั้นตอนของกฎหมาย อีกทั้ง ศาลไม่ได้ตัดสิทธิ์ในการยื่นขอประกันในครั้งหน้าจึงไม่ได้กังวลอะไร
ทั้งนี้ภายหลังศาลอกนั่งบัลลังก์ ได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งหมดฟังแล้วสอบถามว่าจะให้การรับสารภาพ หรือ ปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งปรากฎว่าจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธขอสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 10 มี.ค. 2568 เวลา 09.00 น.
โดยภายหลังสอบคำให้การ นายเริงยศ กล่าวว่า วันนี้นางปทิตตามีกำลังใจดี และ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยหลังจากนี้ศาลจะนัดตรวจสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในช่วงเช้าของวันที่ 10 มี.ค. อีกครั้ง
เมื่อถามว่าในส่วนของนายษิทราปฏิเสธข้อกล่าวหาเหมือนกับนางปทิตตาหรือไม่ นายพินิจ กล่าวว่า นายษิทรามีกำลังใจดีเหมือนกับนางปทิตตา และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน โดยนายษิทรา ได้อ้างว่าเขามีหลักฐานที่จะสามารถต่อสู้คดีได้ และตนยังได้คุยกับทนายความของจำเลยทุกคนในคดีนี้ ยังไม่มีจำเลยคนใดให้การรับสารภาพ ซึ่งทุกคนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่าวันที่ 10 มี.ค. ที่จะมีการตรวจพยานหลักฐานทางทีมทนายความจะเตรียมหลักฐานมาเสนอในชั้นศาลหรือไม่
นายเริงยศ กล่าวว่า วันนั้นเป็นการตรวจของโจทก์คือพนักงานอัยการที่จะนำหลักฐานมาตรวจให้ทางเราดูในการสืบพยานของฝ่ายโจทก์ แต่ในส่วนของจำเลยสามารถพิสูจน์หลักฐานได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าขั้นตอนการยื่นขอปล่อยชั่วคราวจะยื่นหลังวันที่ 10 มี.ค. หรือไม่ นายเริงยศ กล่าวว่า เท่าที่ตนคุยกับทีมทนายแล้ว ทางตนและทีมทนายจะรอดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวในช่วงใด โดยการยื่นขอปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งหมดนั้นจะแยกไปตามทนายความของแต่ละคนซึ่งในส่วนของตนจะดูแลลูกความคือนางปทิตตา ซึ่งจำเลยแต่ละคนจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวเมื่อไหร่ตนไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ แต่ในส่วนของตนจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวก่อนหรือยื่นในภายหลังเป็นสิ่งที่ตัวจำเลยจะต้องดูความพร้อมหรือพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนว่ามีเอกสารอะไรที่เข้ามาเพิ่มหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับจำเลยทั้ง 7 ประกอบด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ,นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ,นายนุวัฒน์ ยงยุทธ ,นางสาวสารินี นุชนารถ, นางสาวปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยา (ได้ประกัน), นางสาวแก้วสวรรค์ สุขผล (ได้ประกัน) และนางสาวมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ (ได้ประกัน)