เด็ดหัว "ชิตตู่" ขาลงปิดเกม "BGF" ย้อนรอยเถื่อน ต้นทางกะเหรี่ยงเทา | คมชัดลึก

30 ปีโตเร็ว ชิตตู่ ส่อขาลง มินอ่องหล่าย รับลูกปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไทยชิงจังหวะออกหมายจับแก๊งกะเหรี่ยงเทา

30 ปีที่แล้ว ชิตตู่ คุมค้าไม้ ค้าวัวริมเมย สวามิภักดิ์เผด็จการเมียนมา คุมเมียวดี พลิกโฉมบ้านก๊กโก่ เป็นเมืองใหม่ทุนจีนเทา

ในที่สุด “แก๊งกะเหรี่ยง BGF” ที่ยึดครองเมืองเมียวดี ก็ส่อแววขาลงสุดๆ เมื่อดีเอสไอ เตรียมนำหลักฐานคดีค้ามนุษย์เข้าพบอัยการ เพื่อหารือเรื่องการออกหมายจับผู้ต้องหาประกอบด้วย พ.อ.ซอ ชิตตู่ ,พ.ท.โม้ โต่ง และ พ.ต.เต่ง วิน ซึ่งเป็น 3 ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF

มีกระแสข่าวว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ฉวยโอกาสทางการไทย ตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดเน็ต กดดัน “ชิตตู่” เพื่อต่อรองการควบคุมเมืองเมียวดี

เชื่อว่า ดีเอสไอ ขยับจะออกหมายจับแก๊งกะเหรี่ยงเทา ย่อมมีการประสานงานกับทางการเมียนมาในบางระดับ

นักสังเกตการณ์ชายแดนเปิดเผยว่า ไทยคงชิงออกหมายจับแก๊งชิตตู่ตัดหน้าพี่ใหญ่จีน เนื่องจากสมัยยุทธการเล้าก์ก่าย จีนก็ออกหมายจับไป๋ โส่วเฉิง และพวกมาเฟียโกก้าง ในคดีค้ามนุษย์

ตอนที่ ไป๋ โส่วเฉิง เจอหมายจับ มีทหารโกก้าง(MNDAA) บุกเข้าไปจับนำตัวส่งจีน แต่ไทยออกหมายจับแก๊งชิตตู่ ใครจะบุกเข้าไปจับตัวในรัง BGF นี่ยังเป็นคำถามอยู่

รู้ลึกเจ้าพ่อ BGF
 

30 กว่าปีที่แล้ว พ.อ.ซอ ชิตตู่ เป็นนายทหาร สังกัดกะเหรี่ยง KNU เป็นน้องรักของนายพล ทิน หม่อง ผบ.กองกำลัง KNU กองพล 7 รับผิดชอบเมืองเมียวดี

นายพลทิน หม่อง เป็นนายทหารคู่ใจนายพลโบเมี้ยะ ผู้นำกะเหรี่ยง KNU ยุคสงครามเย็น

ปี 2537 ทหารกะเหรี่ยง KNU ที่นับถือศาสนาพุทธ ได้แยกตัวออกจากนายพลโบเบี้ยะ และก่อตั้ง “กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ” (DKBA) เป็นองค์กรนำ โดยการสนับสนุนของเผด็จการทหารเมียนมา

เกมพลิกผัน ชิตตู่ ทิ้ง KNU ไปอยู่กับ DKBA โดยเป็นผู้นำกำลังทหาร DKBA ร่วมกับทหารเมียนมา เข้าตีค่ายกอมูร่า ฐานที่มั่น KNU แตกเมื่อปี 2538

หลัง KNU แตกพ่าย ผู้นำทหารเมียนมา มอบให้ ชิตตู่ ดูแลพื้นที่ค่ายกอมูร่า และเก็บผลประโยชน์จากการทำไม้ ริมแม่น้ำเมย บริเวณบ้านก๊กโก่

ในอดีต บ้านก๊กโก่ จ.เมียวดี ตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก เต็มไปด้วยกองไม้ ป่าอ้อย และฝูงวัว

ผ่านไป 30 ปี จาก “บ้านก๊กโก่” หมู่บ้านค้าไม้ ค้าวัว ก็กลายเป็นเมืองใหม่ “ชเวก๊กโก่” เมืองกาสิโน เมืองสแกมเมอร์ของทุนจีนเทา

ปี 2552 พ.อ.ซอ ชิตตู่ นำกำลังทหาร DKBA แปรสภาพเป็น “กองกำลังพิทักษ์ชายแดน” (BGF) สังกัดกองทัพเมียนมา

พ.อ.ชอ ชิตตู่ และ พ.ท.โม้โต่ง ได้เข้าควบคุม “ทำเลทอง” ใน จ.เมียวดีโดยชิตตู่ ผบ.กรม 3 BGF คุมพื้นที่เมียวดี ฝั่งเหนือ และโม้โต่ง ผบ.กรม 2 BGF คุมพื้นที่เมียวดี ฝั่งใต้

ทั้งคู่ต่างเรียกเก็บผลประโยชน์จากการค้าชายแดนไทย-เมียนมา รวมถึงบ่อนพนัน นำเงินรายได้ไปเลี้ยงกองกำลัง BGF และส่งส่วยนายทหารเมียนมา

ปัจจุบัน พ.อ.ซอ ชิตตู่ ยังเป็น ผบ.กองกำลัง BGF สังกัดกองทัพเมียนมา แม้จะมีการประกาศตั้ง “กองกำลังกะเหรี่ยงแห่งชาติ” (KNA) แต่ก็เป็นแค่การเล่นละคร

ขาใหญ่ใจถึงพึ่งได้
 

เมื่อร่ำรวยจาก “ธุรกิจสีเทา” ที่อาณาจักรชเวก๊กโก่ พ.อ.ซอ ชิตตู่ ได้สร้างคฤหาสน์หรูหรา มีสวนน้ำ รถไฟเหาะ ที่บ้านจ่าอิน อ.แลงปอย จ.ผาอัน รัฐกะเหรี่ยง

ว่ากันว่า รสนิยมส่วนตัว ชิตตู่ชอบขี่บิ๊กไบค์ หลงใหลกีฬาฟุตบอล จึงจัดการแข่งขันฟุตบอลลีก ภายใน BGF ชิงถ้วยรางวัลหลานสาวคนโปรด ของชิตตู่

ชิตตู่เป็นคนใจถึงพึ่งได้ มีภาวะผู้นำสูง เขาดูแลลูกน้อง และชาวบ้านในเขตอิทธิพลของเขา ได้กินดีอยู่ดี มีสวัสดิการหมู่บ้าน

เม็ดเงินที่ได้มาจากเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ ชิตตู่จะนำไปสร้างวัด โรงเรียน และโรงพยาบาล