
"ชาวอุยกูร์ คือ" ย้อนประวัติศาสตร์ รากเหง้ากลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมในจีน
ย้อนประวัติศาสตร์ "ชาวอุยกูร์" กลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมในซินเจียง มณฑลที่มีพื้นที่มากสุดในประเทศจีน ชนชาติที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน
"ชาวอุยกูร์" (Uyghur) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีรากเหง้ามาจากชนเผ่าเร่ร่อนในแถบเอเชียกลาง และมาจากชนเผ่าตุรกีโบราณที่เคยอาศัยอยู่ในแถบดังกล่าว หรือ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในซินเจียง ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
"ชนชาติอุยกูร์" คือ หนึ่งในสิบของชนชาติมุสลิมในประเทศจีน
ในช่วงปีหลังๆ มานี้ รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการเด็ดขาดกับวัฒนธรรมและศาสนาของชาวอุยกูร์ โดยลงโทษชาวอุยกูร์ที่พูดภาษาอุยกูร์ ดำรงรักษาวัฒนธรรม หรือปฏิบัติตามหลักศาสนาของตน เช่น การอดอาหารระหว่างเดือนถือศีลอด หรือการงดเว้นจากการรับประทานหมูและดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ชาวอุยกูร์มีวัฒนธรรมและศาสนาที่คล้ายคลึงกับกลุ่มชาติพันธุ์เอเชียกลางอื่นๆ เช่น กลุ่มอุซเบกและกลุ่มคาซัก ทั้งยังใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับภาษาอุซเบก และมีความคล้ายคลึงกับภาษาคาซัก ภาษาคีร์กีซ และภาษาเตอร์กิก ชาวอุยกูร์ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเอกลักษณ์ของกลุ่มอุยกู
ชาวอุยกูร์ อาศัยอยู่ที่ไหนบ้าง
- ร้อยละ 80 ของชาวอุยกูร์อยู่ในซินเจียง ซึ่งเป็นมณฑลที่มีพื้นที่มากที่สุด และตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน แต่เป็นภูมิภาคที่ห่างไกลมากที่สุด และมีประชากรน้อยที่สุดภูมิภาคหนึ่งของประเทศ
- นอกจากในพื้นที่ซินเจียง ยังมีชาวอุยกูร์ในเขตเถาหยวนทางภาคกลางตอนบนของมณฑลหูหนาน
- ชุมชุนชาวอุยกูร์พลัดถิ่นอื่นๆ ยังพบได้กลุ่มประเทศเตอร์กิก เช่น คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน อุซเบกิสถาน และตุรกี และยังมีชุมชนขนาดเล็กในซาอุดีอาระเบีย จอร์แดน ออสเตรเลีย รัสเซีย และสวีเดน
รู้จัก "มณฑลซินเจียง"
- แหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ทั้งยังมีระบบเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมและการค้าขายมาเป็นเวลายาวนาน เมืองต่างๆ ในซินเจียงเคยเป็นจุดพักที่สำคัญๆ ตามเส้นทางสายไหมที่มีชื่อเสียง เขตแดนซินเจียงปัจจุบัน
- ซึ่งในภาษาจีนมีความหมายว่า "แนวพรมแดนใหม่" อยู่ภายใต้การปกครองของจีนหลังจากราชวงศ์ชิงเข้ามาถือสิทธิ์ในภูมิภาคระหว่างสงครามช่วงศตวรรษที่ 18 ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1940 ภูมิภาคนี้ได้ประกาศตัวเป็นรัฐเอกราชช่วงสั้นๆ สองครั้ง แต่ประเทศจีนกลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้งหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์ยึดครองประเทศในปี พ.ศ. 2492
ประวัติความเป็นมาของ "ชาวอุยกูร์"
- ชาวอุยกูร์ทุกคนต่างเชื่อว่า บรรพบุรุษของพวกเขาคือชนพื้นเมืองในลุ่มน้ำทาริม ซึ่งครอบคลุมบริเวณกว้างถึงประมาณ 350,000 ตารางกิโลเมตร หรือที่รู้กันในปัจจุบันคือ "มณฑลซินเจียง"
- ชนชาวอุยกูร์ยังเป็นลูกหลานของชนเผ่าร่อนเร่ในเอเชียกลางที่มีอารยธรรมสูงส่งโดยมีอาณาจักรตั้งอยู่ในเมืองทุรพาน จากการพิสูจน์ซากมัมมี่ที่ค้นพบในหลุมฝังศพในเมืองซินเจียง และในดินแดนแถบนี้พบว่า มีอายุมากถึง 6,000 ปี จึงเป็นการพิสูจน์ว่าชาวซินเจียงนั้นเป็นชนเก่าแก่กว่าชายฮั่น
- ดังนั้น ชาวอุยกูร์จึงมีความผูกพันกับผืนแผ่นดินในซินเจียงเป็นอย่างมาก และเชื่อว่า "นี่คือแผ่นดินของพวกเขา เขตแดนของพวกเขา" ถึงแม้ว่าอาณาจักรของอุยกูร์ดั้งเดิมในยุคต้นจะกลายเป็นเขตของมองโกเลียในปัจจุบัน และต่อมาตกอยู่ภายใต้การครอบครองของประเทศจีนในปัจจุบันก็ตาม
- โดยกลุ่มชาตินิยมอุยกูร์มักกล่าวหานโยบายของจีนในการอพยพผู้คนชาวฮั่นเป็นจำนวนมากเข้ามาในดินแดนซินเจียงว่าการดำเนินนโยบายพัฒนาอย่างไร้ขอบเขตจนเป็นเหตุของทำลายสภาพแวดล้อม ตลอดจนการทดลองอาวุธนิวเคลียร์นับเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์
คำว่า "อุยกูร์" ไม่ได้มีความหมายในเชิงชนเผ่า หรือ เขตแดนแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีนัยทางการเมืองที่แฝงอยู่ พวกเขาถูกจัดกลุ่มให้กลายเป็นพวกเดียวกับ หุย-เหอ หรือ หุย-หู และต่อมา หลังจากการปฏิวัติเหมาในปี ค.ศ.1949 จึงได้รับการยอมรับความเป็นชนชาติอุยกูร์อย่างเป็นทางการนั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย และ สถานทูตสหรัฐฯและสถานกงสุลในประเทศไทย