ข่าว

"สุชาติ" โต้เดือด "ไอซ์ รัชนก" พาดพิงปมซื้อตึก 7 พันล้าน ยืนยันไม่รู้เรื่อง

"สุชาติ" โต้เดือด "ไอซ์ รัชนก" พาดพิงปมซื้อตึก 7 พันล้าน ยืนยันไม่รู้เรื่อง

11 มี.ค. 2568

"สุชาติ" ยืนยันไม่รู้เรื่องประกันสังคมซื้อตึก 7 พันล้าน เป็น รมต. ยุ่งไม่ได้ ผิดกฎหมาย สาบานไม่มีเด็กหน้าไปเป็นบอร์ด แนะควรหาข้อมูลให้แม่น

กรณี น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน เปิดเผยถึงการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ย่านพระราม 9 ที่สำนักงานประกันสังคมซื้อมาในราคาประมาณ 7,000 ล้านบาท แต่ราคาประเมินอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ในปี 2565 โดยมีการพาดพิงถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานขณะนั้น คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น 


ล่าสุด นายสุชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี ยืนยันตนไม่ทราบ สิ่งที่กล่าวอ้างมาทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง พูดด้วยความสัตย์จริงลูกผู้ชายพอ ไม่ทราบเรื่องซื้อขาย เพราะรัฐมนตรีจะเข้าไปรับรู้หรือยุ่งไม่ได้ ผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาก็ไม่รู้ว่าลงทุนอะไร เป็นเรื่องของบอร์ดประกันสังคม และตนมองว่า เรื่องนี้ประกันสังคมต้องออกมาชี้แจง ต้องถามประกันสังคมว่า วันนี้ศักดิ์ศรีของข้าราชการในการที่จะให้ สส.คนใดคนหนึ่งมาต่อว่า แบบนี้ไม่ได้ ต้องชี้แจงให้ถูกต้อง ส่วนตึกดังกล่าว ตนยังไม่รู้ด้วยซ้ำอยู่ที่ใด เพิ่งรู้จากข่าวเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) 

ทั้งนี้วิธีขั้นตอนการซื้อจะมีการประเมินจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และไม่ใช่แค่บริษัทเดียว มี 2-3 บริษัท ตนไม่แน่ใจ ต้องมี คนกลางประเมินราคา คนขายจะขายเองไม่ได้และต้องมีที่ปรึกษาการลงทุนอีก ซึ่งจะต้องไปวิเคราะห์ใช้ราคาไหนในการจัดซื้อ


นายสุชาติ กล่าวต่อว่า หลังถูกพาดพิง ตนก็เรียกคนที่เกี่ยวมาสอบถาม เพราะมีการกล่าวหากันลอยๆ หากตนไม่ออกมาพูดก็หาว่ายอมรับ แต่พอออกมาพูดก็หาว่าดิ้น แต่ตอนออกมาพูดในฐานะที่ถูกพาดพิง สังคมต้องให้ความเป็นธรรมคนที่โดนกล่าวหา และคิดว่าเดี๋ยวเจ้ากระทรวง หรือประกันสังคมที่เป็นตัวต้นเรื่อง ก็ต้องออกมาชี้แจง
 

โดยตนเห็นเอกสารราคาประเมินจากตลาดทรัพย์ทรัพย์ 7 พันกว่าล้านและตนได้ดูเอกสารในประชุมบอร์ดประกันสังคม มีการแจ้งซื้อตึก ราคาต่ำกว่าประเมินกี่เปอร์เซ็นต์ ตนไม่แน่ใจ ส่วนราคา 3 พันล้านที่ไม่รู้เอามาจากไหน ซึ่งก็มีคนพูดว่า ตั้งแต่ปี 25040 ตนก็ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน 

 

ส่วนบอร์ดประกันสังคมมีตัวแทนจากหลายส่วน ทั้ง ตลาดหลักทรัพย์ อัยการสูงสุด กรมธนารักษ์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น มี 13 คน ซึ่งตนไม่รู้จักใครในนั้นสักคน หลังจากนี้ไปตนต้องรักษาสิทธิของตัวเอง ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองเท่านั้น และไม่มีอะไรจะฝากบอกอีกฝ่าย เพราะโต้กันไปโต้กันมาไร้สาระ


ส่วนกรณีที่นายสหัสวัตออกมาเปิดว่า เด็กหน้าห้องได้ย้ายไปบริหารงานความเสี่ยงและกำกับการลงทุน จากนั้นได้ไปอนุกรรมการลงทุนนอกตลาดและมีอำนาจตัดสินใจซื้อตึกดังกล่าว นายสุชาติ กล่าวว่า สาบานไม่มีหน้าห้องไปเป็นบอร์ด การจะเป็นผู้แทน กล่าวอ้างหรือต่อว่าใคร ต้องมีวุฒิภาวะที่ดีพอกว่านี้ ต้องมีข้อมูลที่แม่นกว่านี้ ในการกล่าวอ้างหรือยิบโยงให้คนสังคมเคลือบแคลงสงสัย เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ