
น้ำใจหลั่งไหล ช่วย "ป้าแอ๊ด" เกือบจบชีวิต เพราะเครียดสามีแย่งข้าวหมา
น้ำใจหลั่งไหล ช่วย "ป้าแอ๊ด" เกือบจบชีวิต เพราะเครียดรายรับไม่พอกับรายจ่าย ดูแลสามีไม่ดี จนไปแย่งข้าวหมากิน
เมื่อช่วงเย็น วันที่ 16 มี.ค. 2568 ร.ต.ต.พรศักดิ์ เสน่หา รองสวป.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งมีเหตุคนจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย บริเวณท่าน้ำบางปะกง ด้านหลังวิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบป้าแอ๊ด อายุ 54 ปี นั่งร้องไห้เสียใจ เนื่องจากไม่มีเงินซื้อข้าวให้สามี ที่ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบกิน จนทำให้สามีหิว แล้วพอมีคนนำข้าวและเศษอาหาร มาให้สุนัขจรกิน สามีของตนกลับไปแย่งข้าวสุนัขมากิน ทำให้ตนเองรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ที่ดูแลสามีได้ไม่ดี
ทั้งๆ ที่ตนก็พยายามจนถึงที่สุดแล้วทั้งขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง หาเงินเลี้ยงดูสามีและค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้าน แต่รายรับที่ได้ก็ไม่พอกับรายจ่าย ทำให้ตนเองรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา จึงหวังอยากจะมาฆ่าตัวตาย เพื่อไม่อยากรับรู้ปัญหาต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นอีกแล้ว แต่พลเมืองดีที่อยู่บริเวณนั้นสังเกตเห็นเสียก่อน จึงได้รีบประสานเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาทำการตรวจสอบ และชาวบ้านที่อยู่ละแวกดังกล่าว มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 1 พันบาท
17 มี.ค. 2568 น.ส.เมธาวี บุญพิทักษ์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นางจำเนียร สุขสมบูรณ์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และนายชำนาญ ฉัตรวิเชียร รองหน้าชุดปฏิบัติการหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เดินทางไปยังบ้านเช่า ภายในซอยศุขประยูร 2 ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นห้องเช่าของป้าแอ๊ด และสามี วัย 59 ปี
น.ส.เมธาวี บุญพิทักษ์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า จากการพูดคุย ทราบว่า สาเหตุหลักเกิดจากความเครียดสะสมของป้าแอ๊ด เนื่องจากค้างค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,300 บาท และค้างค่างวดรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ประกอบอาชีพวิ่งวินรับจ้าง เดือนละ 1,435 บาท มา 2 เดือนแล้ว ป้าแอ๊ดทำงานเพียงคนเดียว เพราะสามีป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ไม่สามารถทำงานได้
อีกทั้งเมื่อป้าแอ๊ดออกไปขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง พอกลับเข้ามาบ้าน จานดาวเทียมทีวีที่วางไว้นอกบ้าน ได้ถูกโจรตัดสายขโมยจานไป ทำให้ไม่มีทีวีดู กลับมาถึงห้องก็ต้องนอน เกิดความเครียดสะสมหลายๆ ด้าน จนกระทั่งล่าสุดกลับเข้ามาบ้าน พบามีไปแย่งข้าวหมาที่ชาวบ้านนำมาทิ้งไว้ให้หมากินอีก เพราะความหิว จึงเกิดความเครียดสะสมไปนั่งที่ริมแม่น้ำบางปะกง
เบื้องต้นในวันนี้ทาง พม.จะมอบเงินสงเคราะห์ให้จำนวน 3,000 บาท และหลังจากนี้จะติดตามความเป็นอยู่ของป้าแอ๊ดอย่างต่อเนื่อง ส่วนสามีของแอ๊ด ทาง พม.จะประสานพาตัวนายชัยวัฒน์ สามีไปตรวจให้แพทย์ประเมินอาการ เพื่อออกใบผู้พิการ รับเงินช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน นายชำนาญ ฉัตรวิเชียร รองหน้าชุดปฏิบัติการหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องจากป้าแอ๊ดเมื่อวานนี้ ทางหน่วยกู้ภัยฯ ได้นำอาหารแห้ง มาช่วยเบื้องต้น พอทราบเรื่องที่ป้าแอ๊ดถูกขโมยจานทีวีไป และเป็นสาเหตุหนึ่งของความเครียด วันนี้จึงนำจานดาวเทียมทีวี มาให้ป้าแอ๊ดใหม่ โดยทำการติดตั้งบนหลังคา ป้องกันหัวขโมยมาขโมยจานของป้าแอ๊ดไปอีก และนอกจากนี้ทางหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา จะเปิดจุดรับของบริจาคจำนวน 2 วัน เนื่องจากประชาชนชาวแปดริ้วหลังทราบข่าวก็อยากช่วยเหลือป้าแอ๊ด ก่อนจะขนสิ่งของเข้ามามอบให้ที่บ้านหลังนี้ เนื่องจากทางเข้าบ้านป้าแอ๊ดค่อนข้างแคบ เกรงว่าหากมีประชาชนเข้ามาจำนวนมาก จะเป็นการรบกวนเพื่อนข้างห้อง และคนที่อยู่ในซอย จึงเปิดจุดรับบริจาคอาหารแห้งให้ป้าแอ๊ด
นางรัชนก เอี่ยมลักษณชัย อายุ 63 ปี ประธานชุมชนท่าข้าม เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ตนเองยืนยันว่าครอบครัวนี้ฐานะยากจนจริง ตั้งแต่สามีป่วย ป้าแอ๊ดต้องทำงานคนเดียว ป้าแอ๊ดเป็นคนดี ขยันทำงาน และเกรงใจคน ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร ทำงานหาเช้ากินค่ำไปวันๆ ส่วนสาเหตุที่นายชัยวัฒน์ แย่งข้าวหมากินนั้น ตนเองคิดว่าน่าจะเกิดจากความหิว และอาการที่ป่วย