สาวขับฟอร์จูนเนอร์ ยัน ลูก 2 ขวบ นั่งคาร์ซีท ไม่ได้หักพวงมาลัย | คมชัดลึก

จากกรณี น.ส.พิรุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ขับรถฟอร์จูนเนอร์ พุ่งชนจักรยานยนต์ บนถนนสายสตึก-โนนจำปา บริเวณบ้านยางงาม หมู่ที่ 10 ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เป็นเหตุให้ น้องมันนี่ อายุ 13 ปี และ น้องนะโม อายุ 9 ปี สองพี่น้อง เสียชีวิตทันที โดย ยายผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับ คนขับฟอร์จูนเนอร์ บอกว่า ลูกชายคนเล็กอายุ 2 ขวบ หักพวงมาลัย ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

23 มี.ค. 2568 น.ส.พิรุณ คนขับฟอร์จูนเนอร์ ออกมาโต้ว่า เหตุการณ์ไม่ได้เหมือนตามที่ข่าวนำเสนอ ความจริงแล้ว ลูกชายวัย 2 ขวบ นั่งอยู่คาร์ซีท เบาะนั่งข้างคนขับรถ ช่วงเกิดเหตุตนขับรถด้วยความเร็ว เพียง 70-80 กม./ชม. เท่านั้น บริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้งนิดๆ ตอนนั้นลูกชายคนเล็กเอามือปิดตาบอกว่ากลัว

จากนั้นลูกชายอาเจียนออกมา จึงหันไปบอกลูกชายคนโต อายุ 12 ปี ที่นั่งอยู่ด้านหลัง ว่าให้หากระดาษมาเช็ดให้น้อง แล้วรถก็พุ่งชนจักรยานยนต์ดังกล่าว ซึ่งตนคาดว่าเด็กน่าจะออกมาจากถนนซอย ตอนแรกคิดว่าฝัน พอถุงลมนิรภัยมากระแทกใส่หน้า จึงรู้สึกตัวว่านี่เป็นเรื่องจริง

ยืนยันว่าลูกชายไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพวงมาลัย เหมือนตามที่เป็นข่าว ส่วนกรณีข่าวระบุว่า มีคนมาถามหลังเกิดเหตุตนยอมรับว่ามีจริง ตนก็เล่าตามที่เล่าตอนนี้

น.ส.พิรุณ กล่าวอีกว่า ตนพร้อมช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่ เพราะเห็นใจ เท่าที่ทราบยายเลี้ยงหลานมาตั้งแต่ 4 เดือนตามลำพัง เพราะพ่อแม่แยกทางกัน ไม่มีใครส่งเงินมาเลี้ยงดูหลาน

จากการตรวจสอบสภาพรถฟอร์จูนเนอร์คันเกิดเหตุ พบว่าด้านหน้ารถและหลังรถมีกล้องอยู่ แต่ไม่พบเมมโมรี่การ์ดของกล้อง สอบถาม น.ส.พิรุณ บอกว่าตนได้ถอดออก เมื่อผู้สื่อข่าวขอดูการ์ด น.ส.พิรุณ ก็ให้ดูพบว่าการ์ดยังมีพื้นที่เหลืออยู่ แต่ไม่มีภาพช่วงเกิดเหตุ

ส่วนบรรยากาศงานศพ น้องมันนี่กับน้องนะโม เต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางทองจันทร์ ยืนยันอีกว่า รถยนต์ข้ามเลนมาชนหลานทั้งสองคนต่อหน้าต่อตา จำติดตาว่ารถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วเหมือนลมพัดมา เช้าวันนี้พ่อของคนขับรถยนต์ เอาน้ำดื่มมาช่วยงานศพ แจ้งว่าจะไปดูหลาน 2 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บเลือดกำเดาไหลไม่หยุด

อย่างไรก็ตามรถยนต์คันดังกล่าว มี พ.ร.บ.ภาคบังคับ และมีประกันแบบสมัครใจ ซึ่งน่าจะได้รับการเยียวยาเบื้องต้นจากระบบไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้พ่อกับแม่เด็กที่เสียชีวิต ได้มารอที่บ้านแล้ว