ข่าว

คนงานตึกถล่ม เผย กู้ภัยฯ พบร่างภรรยา เมื่อคืนนี้ ยืนยัน จำแหวนได้

คนงานตึกถล่ม เผย กู้ภัยฯ พบร่างภรรยา เมื่อคืนนี้ ยืนยัน จำแหวนได้

01 เม.ย. 2568

ไร้ปาฏิหาริย์ คนงานตึกถล่ม เผย กู้ภัยฯ พบร่างภรรยา เมื่อคืนนี้ ยืนยัน จำแหวนได้ ภรรยาชอบใส่ แม้ราคา 50 บาท เล่านาทีได้ยินเสียงปูนลั่น

1 เม.ย. 2568 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีร่างของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ตึกถล่ม ถูกส่งมาพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จำนวน 12 ร่าง ตอนนี้สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวบุคคลได้ครบทุกร่างแล้ว

แต่ยังมีปัญหาในส่วนของร่างที่เป็นแรงงานชาวต่างชาติจำนวน 1 ร่าง ที่แพทย์นิติเวช พิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นบุคคลใด แต่ยังไม่มีบริษัท หรือญาติของผู้เสียชีวิตรายนี้เข้ามายืนยัน ตนเองจึงอยากจะขอวิงวอนให้บริษัทต้นสังกัดของผู้เสียชีวิตเข้ามาติดต่อ เพื่อรับร่างของผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนา

พล.ต.ต.วาที กล่าวอีกว่า เรื่องของการตรวจดีเอ็นเอ ตอนนี้มีครอบครัวของผู้สูญหาย กว่า 40 ครอบครัว เข้ามาติดต่อและขอเก็บดีเอ็นเอ เพื่อเป็นฐานข้อมูลเอาไว้แล้ว แต่ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้เข้ามาติดต่อ เนื่องจากตอนนี้ตัวเลขของผู้สูญหาย ทราบว่ามีประมาณ 76 ราย จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ญาติของผู้สูญหาย จากเหตุการณ์ตึกถล่ม เดินทางเข้ามาที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อเก็บหลักฐานทางดีเอ็นเอ และเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความ

ทั้งนี้ สามารถเดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยาได้เลย เพราะที่นี่เรามีการจัดเตรียมพนักงานสอบสวน พร้อมกับเขตในการแจ้งใบมรณะบัตรเอาไว้แล้ว
 

คนงานตึกถล่ม เผย กู้ภัยฯ พบร่างภรรยา เมื่อคืนนี้ ยืนยัน จำแหวนได้

ด้าน นายรุ่งโรจน์ แขมคำ อายุ 43 ปี สามีของ น.ส.วิภาคำ พรหมภักดี อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ กินไม่ได้นอนนอนไม่หลับ ได้แต่เฝ้าติดตามสถานการณ์การค้นหาผู้รอดชีวิตของเจ้าหน้าที่

จนกระทั่งเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ เห็นแหวนที่ภรรยาสวมใส่ และชุดของบริษัทที่ตนเองและภรรยาทำอยู่ จึงได้สอบถามมายังตน ว่าร่างที่เจอเมื่อคืนนี้เป็นภรรยาของตนหรือไม่ เมื่อตนเห็นจึงจำได้ทันที ว่าแหวนดังกล่าวคือแหวนที่ภรรยาใส่เอาไว้ช่วงที่มีชีวิตอยู่ และเป็นแหวนที่ภรรยารัก แม้จะมีราคาเพียง 50 บาท แต่ใส่ติดตัวไม่เคยถอด

วันเกิดเหตุภรรยามีหน้าที่ขับลิฟท์รับส่งคนงาน ส่วนตนทำหน้าที่ให้สัญญาณกับเครนที่อยู่บนดาดฟ้า ก่อนเกิดเหตุช่วงพักเที่ยง ตนเองกับภรรยามานั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน และมีการพูดคุยเรื่องทั่วไป หลังจากกินข้าวเสร็จ ภรรยายังแซวตนว่า "หัวมึงหงอกเยอะแล้วนะ กูถอนให้" ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกแปลกใจ เพราะปกติแล้วภรรยาของตนไม่เคยทำอะไรลักษณะแบบนี้ และเป็นคนแสดงความรักไม่เก่ง และไม่คิดว่า จะกินข้าวเที่ยงด้วยกันเป็นมื้อสุดท้าย

คนงานตึกถล่ม เผย กู้ภัยฯ พบร่างภรรยา เมื่อคืนนี้ ยืนยัน จำแหวนได้

นายรุ่งโรจน์ กล่าวอีกว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนเองทราบว่าภรรยาทำงานอยู่บริเวณชั้น 28 ส่วนตนเองนั้นอยู่บริเวณหน้าตึกได้ยินเสียงเหมือนปูนลั่น จำนวน 2 ครั้ง จึงพยายามโทรไปหาภรรยา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ พอปูนลั่นครั้งที่ 3 ตึกก็ถล่มมา ตนจึงวิ่งเอาตัวรอดออกมา ระหว่างที่วิ่งก็พยายามโทรหาภรรยาหลายครั้ง แต่ไม่มีใครรับสาย

ซึ่งหลังจากที่ตึกถล่มลงมา ฝุ่นก็ฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ ตนเองหมอบตัวลงพร้อมกับใช้ผ้าปิดบริเวณปากและจมูก หลังฝุ่นจางแล้วได้รีบวิ่งกลับไปที่กองซากตึก และไปเรียกหาภรรยาอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาดึงตนออกไป เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย หลังจากนั้นตนเองก็เฝ้ารออยู่ที่บริเวณจุดเกิดเหตุตั้งแต่วันแรก จนถึงเมื่อคืนนี้ที่เจอร่างภรรยา

หลังจากนี้ตั้งใจว่าจะนำร่างของภรรยากลับไปประกอบพิธีกรรมตามศาสนาที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และจะกลับมาทำงานรับจ้าง เพื่อเก็บเงินส่งให้ครอบครัว และลูกต่อไป เนื่องจากตนเองไม่มาทรัพย์สินอื่น และไม่มีความรู้ ช่วงที่ภรรยายังอยู่นั้นตนเองกับภรรยาก็ทำงานรับจ้างทั่วไป พยายามหาเงินส่งให้กับครอบครัว และลูก เลยทำให้ไม่เคยคิดถึงอนาคตเรื่องอื่น