ข่าว

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยอมรับ โอกาสพบผู้รอดชีวิตน้อยลง อาจเจอผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยอมรับ โอกาสพบผู้รอดชีวิตน้อยลง อาจเจอผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

06 เม.ย. 2568

การค้นหาวันที่ 10 "ผู้ว่าฯ ชัชชาติ" ยอมรับ โอกาสพบผู้รอดชีวิตน้อยลง อาจเจอผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ปรับแผนทำงาน จากวิ่งร้อยเมตร เป็นวิ่งมาราธอน

6 เม.ย. 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหว ว่า การทำงานเป็นไปตามยุทธวิธี คือเรานำเครื่องจักรกลหนักเข้าเปิดทาง จุดที่เราคาดว่าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มบริเวณโซน C

ทั้งนี้ ปัญหาหลัก คือการเอาเนินด้านบนลง เนื่องจากมีความไม่ปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งการเอาเนินลงต้องทำทางเข้าไป เมื่อคืนจึงมีการตัดอาคารด้านหน้าออกเพื่อเปิดทางให้นำรถขนาดใหญ่ที่สามารถเอื้อมได้ถึงเข้าไปจัดการกองเนินด้านบนดังกล่าว ปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้ว จากนั้นจะมีรถเข้ามา 2 ทาง คือ ทางด้านหน้าและด้านข้าง ซึ่งด้านข้างเองมีการเจาะออกทางด้านหลังซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อว่า เมื่อคืนนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ซึ่งตอนนี้นำออกมาแล้วทั้ง 2 ราย สถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้น เราเริ่มเอาจุดที่มีความไม่มั่นคงออก เครื่องมือหนักเริ่มเข้าพื้นที่ได้มากขึ้น น่าจะพบผู้ติดอยู่ข้างใน แต่โอกาสผู้รอดชีวิตคงน้อยลงและพบผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยอมรับ โอกาสพบผู้รอดชีวิตน้อยลง อาจเจอผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

โดยตอนนี้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนจากการวิ่งสปรินท์ เป็นวิ่งมาราธอน คือการกู้ชีพเปรียบเหมือนการวิ่งแข่ง 100 เมตร แต่ตอนนี้เชื่อว่าเป็นเกมยาวรักษาความต่อเนื่อง จัดทีมงานให้เหมาะสม ต้องดูแลผู้ทำงานให้อยู่ทำงานกับเราได้ระยะยาว การบริหารจัดการพื้นที่ด้านในดีขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน อาทิ จิตอาสาพระราชทาน

สำหรับทีมกู้ภัยจากแคนาดาที่เดินทางมาถึงเมื่อวานเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว คาดว่าจะเข้าไปยังประเทศเมียนมา แต่ไม่สามารถเข้าได้จึงแวะมายังประเทศไทย คิดว่ามี K-9 มาด้วยแต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกัน จากนี้คงต้องดูว่าจะปรับแผนทำงานอย่างไรให้เข้ากัน

ส่วนเรื่องของการตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้น โดยหน้าที่ของ กทม. คือ ดูแลอุบัติภัย เรื่องการตรวจสอบอาคาร สตง. เป็นหน้าที่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการลงมา เป็นการดำเนินงานคนละส่วนกัน กทม. มีหน้าที่ให้ความร่วมมือเมื่อมีคณะทำงานเข้ามาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ

เรื่องการค้นหาผู้รอดชีวิตหลังจากผ่านมา 10 วัน ก็ยังเหมือนเดิม คือยังมีความหวัง เรามีทีมกู้ชีพอยู่ประจำจุด หากมีช่องหรือโพรงใหญ่เราก็จะส่งทีมกู้ภัย และ K-9 เข้าไปสำรวจก่อนว่ามีสัญญาณชีพหรือไม่ เราทำงานควบคู่กันไปทั้งให้เครื่องจักรหนักทำงาน 5-6 ชั่วโมง หากถึงจุดที่มีโพรงให้เครื่องจักรพักแล้วกู้ภัยเข้าสำรวจ สำหรับปัญหาของเครื่องจักร เป็นธรรมดาที่ทำงานต่อเนื่องจะมีความเสียหายต่างๆ ซึ่งเราได้คาดการณ์ไว้แล้วก็ได้สั่งให้จัดเตรียมอุปกรณ์ซ่อมแซมบำรุงไว้หน้างาน

ตอนนี้เริ่มเห็นโพรงที่จะมีการเชื่อมโยงกันระหว่างโซน B กับ โซน C ซึ่งโซน B กับ C จะเป็นจุดเข้า-ออก ของคนงาน เพราะคนงานจะเข้าออกตึกหลังซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน และจะมีบันไดที่เชื่อมเพื่อให้คนงานเข้าออกทั้งเช้า เที่ยง เย็น เราจึงคาดการณ์ว่าจะมีโพรงอยู่ด้านล่าง

ซึ่งร่างที่เราพบ 2 ราย เมื่อคืนก็อยู่บริเวณนี้ เข้าใจว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการหนีออกไปทางสำนักงาน และตอนนี้เรามีโปรแกรมที่ใช้ระบุว่าคนที่เจอมาจากชั้นไหน บริษัทอะไร ทำให้เราเข้าใจการหนีของคนได้ละเอียดขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็ได้มาจากทีมกู้ภัยนานาชาติ

สำหรับจำนวนร่างผู้ที่ติดอยู่ตอนนี้ต้องรอระบุอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจย้ำว่าหากจะนับขอให้นำออกมาครบทั้งร่างกายก่อน ต้องชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำกัน ทั้งนี้ ยอดตัวเลขรอให้ทางพิสูจน์หลักฐานยืนยันอีกครั้ง