ข่าว

รอง ผบ.ตร. เผย "เฮียหมู" ผู้จัดงานโคตรเปียก ยังไม่เข้าข่าย เป็นผู้มีอิทธิพล

รอง ผบ.ตร. เผย "เฮียหมู" ผู้จัดงานโคตรเปียก ยังไม่เข้าข่าย เป็นผู้มีอิทธิพล

08 เม.ย. 2568

รอง ผบ.ตร. เผย "เฮียหมู" ผู้จัดงานโคตรเปียก ยังไม่เข้าข่าย เป็นผู้มีอิทธิพล เหนือตำรวจ ระบุ เคยเป็น "กต.ตร." สน.ลาดพร้าว จริง แต่หมดวาระไปแล้ว

8 เม.ย. 2568 พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี นายพลากร หรือ "เฮียหมู" อายุ 56 ปี ผู้จัดงาน "โคตรเปียก" ที่ตกเป็นข่าวมีปัญหากับสื่อมวลชน ขณะเข้าขอสัมภาษณ์ ว่าได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สน.ลาดพร้าว ตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ของบุคคลดังกล่าวแล้ว

เบื้องต้นพบว่า นายพลากร เคยดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สน.ลาดพร้าว จริง แต่หมดวาระไปแล้ว และเจ้าตัวยินดีให้ความร่วมมือ หากมีการแจ้งความดำเนินคดี โดยยืนยันพร้อมเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งได้สั่งการให้ สน.ลาดพร้าว เร่งรัดดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว

พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวอีกว่า ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลฯ ได้กำชับให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของนายพลากร อย่างละเอียด หากพบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล จะดำเนินการตามกฎหมายทันที พร้อมฝากถึงทุกภาคส่วนว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นกับสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นกระบอกเสียงของประชาชนและภาครัฐ ดังนั้นหากมีสิ่งใดที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัว หรือไม่ปลอดภัยแก่สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและดูแลความปลอดภัยอย่างรัดกุม
 

พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.

สำหรับกรณีที่มีข้อสงสัยว่า "เฮียหมู" มีอิทธิพลเหนือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ พล.ต.อ.ประจวบ ย้ำว่าได้มีการสั่งตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลที่ชี้ชัดว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่แต่อย่างใด หากมีความคืบหน้าหรือพบพฤติกรรมเพิ่มเติมใดๆ สน.ลาดพร้าว จะรายงานให้ทราบอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังฝากไปยังกองบัญชาการตำรวจ และ สน. ทุกแห่งที่มีคณะกรรมการ กต.ตร. ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาคประชาชน ในการตรวจสอบและสนับสนุนงานตำรวจ ให้พิจารณาคุณสมบัติของบุคคลผู้เข้าดำรงตำแหน่งอย่างเข้มงวด ต้องมีความโปร่งใส มีความรู้ความสามารถ และเป็นที่ยอมรับของสังคม ไม่ควรนำบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเข้ามาร่วมงาน หากพบว่ามีการแต่งตั้งโดยไม่เหมาะสม จะดำเนินการทางวินัยอย่างเข้มงวดต่อไป