
เปิดตำนานความเชื่อ "ศาลเจ้าพ่อปู่โทน" เกิดอุบัติเหตุบ่อย เพราะอะไรกันแน่?
เปิดตำนานความเชื่อ "ศาลเจ้าพ่อปู่โทน" และลักษณะกายภาพ "ทล.304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัย" เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะอะไรกันแน่?
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุ รถบัสโดยสาร สายหนองคาย-ระยอง ประสบอุบัติเหตุ ชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ บริเวณถนน 304 กม. 208+600 พื้นที่ ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นเหตุให้คนขับและผู้โดยสาร เสียชีวิต 7 ราย และได้รับบาดเจ็บ อีก 39 ราย "คมชัดลึกออนไลน์" ชวนรู้จักกายภาพ "ทล.304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัย" เป็นอย่างไร ทำไมเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
สำหรับทางหลวงหมายเลข 304 (ทล.304) ช่วงกบินทร์บุรี-ปักธงชัย เป็นทางหลวงแผ่นดินขนาด 2 ช่องจราจร (ไป-กลับ) บางช่วงมีการขยายเป็น 4 ช่องจราจรเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่หนาแน่นขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชุมชนหรือทางแยกสำคัญ
และเป็นเส้นทางที่มีปริมาณการจราจรค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะรถบรรทุกและรถโดยสารที่เดินทางระหว่างภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บริเวณเขาศาลปู่โทน มีลักษณะทางกายภาพของถนนที่เป็นอันตราย ลักษณะเขาโค้งไปมาคล้ายตัว S หลายจุด โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านเขาศาลปู่โทน จะมีลักษณะเป็นทางขึ้น-ลงเขา ที่คดเคี้ยวและลาดชัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ตำนานความเชื่อ "ศาลเจ้าพ่อปู่โทน"
เมื่อก่อนพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นถนนลูกรัง ประมาณ 60 ปีก่อน ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ญาติพี่น้องของคนที่ล่วงลับไปแล้ว ได้ก่อตั้งศาลขึ้น ชื่อ "ศาลเจ้าพ่อปู่โทน" เวลาใครเกิดอุบัติเหตุจะได้นำของมาเซ่นไหว้ ชื่อปู่โทน มาจากนายโทน เป็นพ่อค้าขนลา มาจาก จ.นครราชสีมา และกำลังจะไป จ.ชลบุรี มาถึงบริเวณทางโค้งถนน 203 รถสิบล้อของนายโทน ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
ชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่า ปู่โทน เป็น เจ้าที่เจ้าทาง หรือ วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่สิงสถิตอยู่บริเวณเขาแห่งนี้ การสร้างศาลขึ้นก็เพื่อเป็นการเคารพสักการะและขอให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ที่เดินทางผ่านไปมา
แต่เนื่องจากบริเวณเขาศาลปู่โทนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดความเชื่อที่น่ากลัวเกี่ยวกับ "ตัวตายตัวแทน" กล่าวคือ มีวิญญาณที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุต้องการหาคนมา "แทนที่" เพื่อที่ตนเองจะได้ไปเกิดใหม่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แม้จะมีความเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ แต่หลายคนก็มองว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้นมีสาเหตุหลักมาจาก ลักษณะทางกายภาพของถนน ที่เป็นทางลาดชันและมีโค้งอันตราย รวมถึง ความประมาทของผู้ขับขี่ มากกว่าที่จะเป็นเรื่องของอาถรรพ์เพียงอย่างเดียว
ดังนั้น "ตำนาน" ของศาลปู่โทนจึงค่อนข้างจะคลุมเครือและผสมผสานระหว่างความเชื่อพื้นบ้านเรื่องเจ้าที่เจ้าทาง ความเชื่อที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับวิญญาณ และความเป็นจริงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นซ้ำๆ อันเนื่องมาจากสภาพถนนและการขับขี่