ด่วน! ศาลสั่งจำคุก 2 อดีตอัยการ คดีเปลี่ยนความเร็วรถ "บอส วรยุทธ" | คมชัดลึก

22 เม.ย. 2568 เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ย่านตลิ่งชัน อ่านคำพิพากษา คดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบหมายเลขดำ อท 131/2567 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุดกับพวกรวม 8 คนเป็นจำเลย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 200, 83, 86 พรป.ประกอบรัฐธรรมนูญญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พรป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172,192

กรณีจำเลยทั้งหมด ร่วมกันกระทำผิดเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดี คำให้การพยาน ความเร็วรถยนต์ฯ เพื่อช่วยเหลือ นายวรยุทธ หรือ "บอส อยู่วิทยา" ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อให้พ้นผิด หรือรับโทษน้อยลง คดีที่นายวรยุทธ ขับรถเฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขับขี่ จยย. เมื่อช่วงเช้ามืด วันที่ 3 ก.ย. 2555

หลังศาลอ่านคำพิพากษา 3 ชั่วโมง เอกสารประมาณ 140 หน้า ศาลรับฟ้องคดีดังกล่าวเมื่อ เดือน ก.ย. 2567 ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 5 เดือน พยานเอกสารกว่า 4 หมื่นแผ่น โจทก์ยื่นพยานมา 100 ปาก แต่ศาลคัดไว้ประมาณ 26 ปาก พร้อมรับพยานวัตถุ 4-5 ชิ้น

และในการฟังคำพิพากษาวันนี้ศาลอนุญาตให้จำเลยนั่งฟังคำพิจารณา เนื่องจากใช้เวลาอ่านคำพิพากษานาน ประกอบกับมีจำเลยสูงอายุ

ศาลพิเคราะห์ว่า นายชัยณรงค์ จำเลยที่ 4 เข้าไปโดยอวดอ้างตน "ขอความกรุณา ไม่ให้เกิน 80 เพราะตามกฎหมายไม่ให้เกิน 80" ซึ่งทุกคนในห้องได้ยินชัยณรงค์ กล่าวอ้างสถานะและบทบาทหน้าที่การเป็นอัยการ ศาลฯ มองว่านายชัยณรงค์ ใช้สถานะตัวเองแทรกแซงพนักงานสอบสวน ไม่ให้ทำหน้าที่อิสระ เป็นการกระทำความผิดส่วนตัว

ส่วนนายเนตร จำเลยที่ 8 อดีตรองอัยการสูงสุด ศาลพิจารณา ว่าใช้อำนาจสั่งฟ้องคดีโดยมิชอบ มีเจตนาช่วยเหลือนายวรยุทธ ให้ได้รับโทษน้อยลง จากการรับฟังพยาน 2 ปากที่ได้มาให้การใหม่เรื่องความเร็วรถซึ่งผ่านมานานแล้ว ทำให้คำให้การของพยานไม่น่าเชื่อถือ แต่จำเลยที่ 8 ใช้ดุลพินิจไม่ชอบ ทั้งที่ตัวเองเป็นอัยการระดับสูง ควรต้องใช้ดุลยพินิจโดยรอบคอบ อีกทั้งศาลเห็นว่าจำเลยที่ 8 วินิจฉัยคดีโดยไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจ ทั้งที่ควรนำตัวนายวรยุทธ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พฤติการณ์ดังกล่าวทำให้องค์กรอัยการเสียหาย

พิพากษาว่าจำเลยที่ 4 มีความผิด ตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 สั่งจำคุก 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 8 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 สั่งจำคุก 3 ปี

ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1-3 และ 5-7 แต่ให้ออกหมายขัง จำเลยที่ 1-3 และ 5-7 ระหว่างอุทธรณ์ โดยขณะนี้จำเลยที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก เเละให้ขังระหว่างอุทธรณ์อยู่ระหว่างยื่นประกันตัว

สำหรับรายชื่อทั้ง 8 คน ประกอบด้วย

1.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.
2. พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.กองพิสูจน์หลักฐาน
3. พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ
4. นายเนตร นาคสุข อดีตรอง อสส.
5. นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตพนักงานอัยการอาวุโส
6. นายธนิต บัวเขียว
7. นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร
8. รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม นักฟิสิกส์ อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ ม.เทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ