ความงก จุดตัดรถไฟฟ้า BTS-MRT เซ็นทรัลลาดพร้าว
คอลัมน์ที่นี่ไม่มีความลับ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3494 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 8-10 ส.ค.2562 โดย... เอราวัณ
ความงก!
จุดตัดรถไฟฟ้า
BTS-MRT เซ็นทรัลลาดพร้าว
ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ของ เจ้าสัวสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ กำลังได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นมหาศาล จากการเปิดสถานี BTS เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งจะทดลองให้บริการฟรีระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมนี้
แน่นอน แม้ว่า BTS ขนคนไปให้เซ็นทรัลซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ที่กำเนิดจากการเช่าพื้นที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 44 ไร่ และต่อสัญญาไปอีก 30 ปี ในปี 2551 ซึ่งจะหมดสัญญาเช่า ในปี 2581 แต่ทั้ง 2 กลุ่มจะได้ประโยชน์เนื่องจากจะเป็นจุดที่ผู้โดยสารขึ้น-ลง และใช้ประโยชน์จากการเดินทางไปห้างและโรงแรมได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
แต่ไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ เพราะที่จริงควรจะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟลอยฟ้า BTS กับรถไฟฟ้าใต้ดินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย แต่ปรากฏว่าตั้งแต่สร้างรถไฟฟ้า รฟม. สายจุตจักร-หัวลำโพง ซึ่งเดิมมีข้อตกลงว่าจะมีการเชื่อมต่อทางเดินระหว่างสถานีพหลโยธิน ของรฟม. ไปที่ศูนย์การค้าของเซ็นทรัล ลาดพร้าว แต่เอกชนผู้เชื่อมต่อซึ่งจะได้รับประโยชน์มากที่สุดต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทางเชื่อมต่อ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะการเสียดายเงินที่จะต้องก่อสร้างจุดเชื่อมสถานี หรือเป็นเพราะเหตุใดกันแน่ แต่ผลที่ปรากฏอยู่คือใครโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อไปห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว จะต้องเดินขึ้นจากสถานีพหลโยธินและเดินขึ้น-ลงสะพานลอย หลายต่อ เพื่อจะไปห้าง เพราะไม่มีการเจาะอุโมงค์เชื่อมต่อทางเดิน
พอเป็นดังนี้ เมื่อเปิดใช้บริการสถานีเซ็นทรัล ลาดพร้าว ของรถไฟฟ้า BTS ของ เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์ จะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ ในการเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างที่หลายคนวาดฝัน ก็ต้องมาดู “น้ำใจ” ของเจ้าสัวเซ็นทรัล สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ จะ “ทุบกระบุก” ออกเงินสร้างอุโมงค์เชื่อมต่อไปยังห้างตัวเอง แต่ประชาชนคนกรุงเทพฯ ที่เป็นและไม่เป็นลูกค้าของห้างและโรงแรมเซ็นทรัล ลาดพร้าว จะได้พึ่งใบบุญหรือไม่?
รู้แค่ว่า ทันทีที่เปิดให้บริการ BTS สถานีเซ็นทรัล ลาดพร้าว จะส่งผลทำให้ผู้โดยสารของ BTS มากขึ้น คนจะไปใช้บริการห้างและโรงแรมเซ็นทรัลลาดพร้าวมากขึ้น นั่นหมายถึงรายได้ของทั้ง 2 กลุ่มจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาหุ้นของทั้ง BTS และ CPN ผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัท คงร่ำรวยขึ้น ส่วนคนไทย จะได้ประโยชน์อะไรจากการร่ำรวยของ 2 เจ้าสัว ต้องคิด “ตอบแทนคุณแผ่นดิน”