ไลฟ์สไตล์

อีเอ็มเอส ยังไม่ถึงมือผู้รับ จนท.นำจ่ายบันทึกว่าได้รับแล้ว

อีเอ็มเอส ยังไม่ถึงมือผู้รับ จนท.นำจ่ายบันทึกว่าได้รับแล้ว

06 ส.ค. 2557

เปิดซองส่องไทย : อีเอ็มเอส ยังไม่ถึงมือผู้รับ เจ้าหน้าที่นำจ่ายบันทึกว่าได้รับแล้ว : โดย...ลุงแจ่ม

 
                            เพื่อนดิฉันส่งพัสดุ EMS จากจังหวัดนครปฐม มาให้ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 25 ก.ค.57 ที่อยู่ผู้รับคือ บริษัทที่ดิฉันทำงานอยู่ใน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เลขที่ EMS - EL48272XXXXTH หลังจากส่งพัสดุแล้ว เพื่อนได้โทรมาบอกเลขที่ EMS ดิฉันจึงตรวจสอบในระบบไปรษณีย์ทางอินเทอร์เน็ต พบว่าพัสดุมาถึงไปรษณีย์อ่าวอุดมซึ่งเป็นปลายทางและรอนำจ่ายเมื่อวันที่ 26 ก.ค.57 
 
                            แต่เพราะวันดังกล่าวเป็นวันเสาร์ บริษัทหยุดทำการ ในวันเสาร์จึงไม่ได้รับ EMS ดิฉันเข้าใจ เพราะพัสดุมาถึงวันเสาร์ก็จะได้รับของวันจันทร์ แต่เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.ค.57 ดิฉันตรวจสอบในระบบอีกครั้ง ขึ้นสถานะว่า ผู้รับได้รับของเรียบร้อยแล้ว ชื่อผู้เซ็นรับ เป็นพนักงานคนหนึ่งของบริษัท ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ดิฉันจึงไปติดต่อรับของที่ประชาสัมพันธ์ แต่ประชาสัมพันธ์บอกว่า วันนี้ไม่มีพัสดุ หรือ EMS ใดๆ มาเลย 
 
                            เนื่องจากวันนี้ฝนตก ดิฉันบอกว่า ในระบบขึ้นว่า มีผู้รับของแล้ว เป็นชื่อนี้อยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งเจ้าตัวผู้ที่ในระบบขึ้นว่าเป็นผู้เซ็นรับบอกว่า เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์อ่าวอุดมจะใส่ชื่อประชาสัมพันธ์คนนี้ทุกครั้งที่มีเอกสาร พัสดุ หรือใดๆ ก็แล้วแต่ที่ส่งมาที่บริษัท และสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ไม่มาส่งในวันนี้ คือ ฝนตก แต่ในกรณีนี้ EMS ยังมาไม่ถึงมือผู้รับ ทางเจ้าหน้าที่ไม่สมควรจะใส่ชื่อหรืออะไรก็แล้วแต่ว่า ผู้รับได้รับเรียบร้อย 
 
                            ซึ่งหากของที่ส่งมา หายไปหรือเสียหาย ผู้ที่ต้องรับผิดชอบ อาจจะต้องเป็นพนักงานบริษัทที่อยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์คนนี้ ที่มีชื่อในการรับ EMS ดิฉันร้อนใจ เกรงว่าพัสดุจะหาย จึงโทรสอบถามไปที่ไปรษณีย์อ่าวอุดม เบอร์โทร.0-3835-xxxx รอสายประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่มีผู้รับสายแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ทำงานกันยังไง 
 
 
พิศมัย
 
 
ตอบ
 
 
                            นายสันติ หาญสุขยงค์ หัวหน้าส่วนควบคุมคุณภาพ สำนักงานไปรษณย์เขต 2 จ.ชลบุรี ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบที่อยู่ผู้รับตามหมายเลข EMS ที่อยู่ผู้รับดังกล่าวเป็นที่ทำการของบริษัท 2 บริษัทตั้งอยู่เลขที่รับเดียวกัน แต่ละวันมีจดหมายและพัสดุนำจ่ายยังผู้รับที่บริษัทนี้หลายชิ้น ซึ่งการนำจ่ายของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ในกรณีที่อยู่ผู้รับตามจดหมายและพัสดุเป็นที่ทำการของบริษัทและหน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่นำจ่ายจะนำจดหมายและพัสดุไปนำจ่ายยังที่อยู่ดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทเป็นผู้รับจดหมายและพัสดุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่บริษัทจะเป็นผู้กระจายจดหมายและพัสดุไปยังผู้รับตามจ่าหน้า ซึ่งบริษัทและหน่วยงานราชการมักใช้เป็นแนวปฏิบัติในการรับจดหมายและพัสดุต่างๆ กรณีที่ตรงกับวันหยุดทำการของบริษัท ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทปฏิบัติหน้าที่ แต่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปฏิบัติหน้าที่ โดยส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะปฏิเสธรับจดหมายและพัสดุ เจ้าหน้าที่นำจ่ายจะเลื่อนการนำจ่ายไปเป็นวันทำการถัดไป 
 
                            กรณีนี้ เจ้าหน้าที่นำจ่ายเตรียมการนำจ่ายในวันจันทร์ที่ 28 ก.ค.57 แต่ในวันดังกล่าวเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่นำจ่ายไม่สามารถเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงเตรียมการนำจ่ายในวันถัดไป คือ วันอังคารที่ 29 ก.ค.57 ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่นำจ่ายทราบว่า ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของบริษัทแห่งนี้เพื่อแจ้งให้ทราบถึงเหตุผลที่ไม่สามารถเข้าไปนำจ่ายได้ ขอนำจ่ายในวันถัดไปแทน และในวันอังคารที่ 29 ก.ค.57 เจ้าหน้าที่นำจ่ายได้ดำเนินการนำจ่าย EMS ดังกล่าว โดยผู้รับได้รับ EMS เรียบร้อยแล้ว 
 
                            สำหรับกรณี EMS ยังไม่ถึงมือผู้รับ แต่เจ้าหน้าที่นำจ่ายบันทึกว่าผู้รับจดหมายได้รับเรียบร้อยแล้ว นั้น เนื่องจากในแต่ละวันเจ้าหน้าที่นำจ่ายต้องนำจ่ายจดหมายและพัสดุลงทะเบียนจำนวนมาก จึงเกิดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล กรณีนี้เจ้าหน้าที่นำจ่ายได้ชี้แจงและขอโทษผู้รับแล้ว
 
                            กรณีที่ติดต่อที่ทำการไปรษณีย์อ่าวอุดมตามเบอร์ดังกล่าวไม่ได้นั้น เนื่องจากเมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีการสับเปลี่ยนที่ตั้งระหว่างไปรษณีย์อ่าวอุดมและเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ทุ่งสุขลา เบอร์ที่ผู้ร้องเรียนติดต่อ คือ เบอร์โทรศัพท์ของเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ทุ่งสุขลา ขณะที่ติดต่อเข้าไป อาจเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่จึงไม่สะดวกในการรับโทรศัพท์ ปัจจุบันเบอร์ติดต่อที่ทำการไปรษณีย์อ่าวอุดม คือ เบอร์ 0-3835-0439 ประชาชนสามารถติดต่อได้ตามที่แจ้ง นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการติดต่อเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ที่ทำการไม่ได้ สำนักงานไปรษณย์เขต 2 จ.ชลบุรี มีนโยบายให้ที่ทำการไปรษณีย์ในสังกัด ให้แจ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ในแต่ละส่วนงานเพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
 
 
ลุงแจ่ม
 
 
 
สามี(ตัวดี)หย่าแล้วไม่จบ
 
 
                            ดิฉันมีเรื่องอยากขอคำแนะนำค่ะ คือ ได้หย่ากับอดีตสามีไปแล้ว แต่เรื่องก็ยังไม่จบ คือ ดิฉันได้ย้ายออกจากบ้านอดีตสามีแล้ว โดยเขาเสนอว่า จะจ่ายเงินให้จำนวนหนึ่ง เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา โดยมีข้อแม้ว่า ดิฉันและลูกไม่สามารถนำทรัพย์สินในบ้านและส่วนควบบ้านไปด้วยได้ ยกเว้นของใช้ส่วนตัวและสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อภายหลังวันที่ทำสัญญาฯ   
 
                            เมื่อแจ้งเรื่องย้ายออกให้เขาแล้ว แทนที่เขาจะจ่ายเงิน กลับส่งหนังสือมาจากทนายความของเขาว่า ขอตรวจบ้าน ดิฉันให้ความร่วมมือ 
 
                            หลังจากนั้น ได้รับจดหมายแจ้งว่า มีข้าวของหลายรายการหายไป ให้ดิฉันนำส่งคืนในเจ็ดวัน เช่น ที่นอน หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำ ตู้เย็น ไมโครเวฟ อุปกรณ์ครัวทุกอย่าง ของจิปาถะในตู้โชว์ โต๊ะหมู่บูชา ฯลฯ
 
                            สำหรับข้อเท็จจริงซึ่งไม่ได้แถลงในวันไกล่เกลี่ย คือ เรื่องที่เขาออกจากบ้านไปหกปี ไม่เคยกลับหรือติดต่อมา ไม่รับผิดชอบภาระใดๆ กับลูก ดิฉันกับลูกไม่เคยทวงถาม ไม่ติดตามเพราะคิดว่าตัวเองต้องหางานทำก่อนและเอาตัวเองกับลูกให้รอด   
 
                            แต่ที่ต้องฟ้องหย่าในปีที่ห้า เพราะเมื่อเขากลับมา เขางัดบ้าน ตัดกุญแจรั้ว พังประตูเข้าไปในบ้านตอนที่ดิฉันออกไปทำงาน เมื่อแจ้งตำรวจ ตำรวจบอกเขามีสิทธิ์เพราะยังไม่ได้หย่า
 
                            สิ่งที่อยากทราบคือ ฉันจะให้เรื่องนี้จบได้อย่างไร
 
 
กัลยา 
 
 
ตอบ
 
 
                            ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ปราชญา  อ่อนนาค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า การที่อดีตสามีให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวทวงถาม เพราะต้องการให้เห็นว่า ฝ่ายภริยาเป็นผู้ปฏิบัติผิดสัญญาประนีประนอมยอมความเสียเอง ซึ่งจะทำให้เกิดการโต้แย้งสิทธิและส่งผลให้ฝ่ายชายไม่ต้องจ่ายเงินตามสัญญา
 
                            กรณีที่ เจ้าหน้าที่ศาลเยาวชนและครอบครัวให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เป็นทางออกที่ดี เพราะการตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี คือการไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวเพื่อให้ศาลมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดียึด หรืออายัดทรัพย์สินของฝ่ายชายได้ แต่ภริยาหรือทนายความของภริยาจะต้องเป็นผู้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ 
 
                            ในขั้นตอนนี้ ฝ่ายสามีอาจอ้างว่า ตัวเขาไม่ได้เป็นผู้ผิดสัญญา ซึ่งทำให้คดีกลับไปสู่ศาลอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเจ้าหน้าที่ยึดหรืออายัดทรัพย์ของสามีแล้ว เพื่อพิสูจน์ว่า ใครเป็นผู้ผิดสัญญาดังกล่าว
 
                            เรื่องนี้ คุณควรมีทนายความ หรือติดต่อมาที่ศูนย์ฯ เพื่อจะได้ให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือได้ 
 
 
ลุงแจ่ม